กฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับเครือข่าย (Network Enforcement Law หรือ NetzDG) กำหนดให้โซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 2 ล้านคนในเยอรมนีดำเนินการลบเนื้อหาที่ “ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน” (เช่น วิดีโอหรือความคิดเห็น) ออกในพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับการแจ้งเตือน หากความผิด (หรือไม่ผิด) ต่อกฎหมายนั้นไม่ชัดเจน โดยปกติแล้วผู้ให้บริการจะมีเวลาในการตัดสินใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวได้ถึง 7 วัน ในบางกรณีที่เป็นข้อยกเว้น ผู้ให้บริการอาจใช้เวลานานกว่านี้ได้ เช่น หากมีการขอให้ผู้ใช้ที่อัปโหลดเนื้อหา ซึ่งระบบจัดเก็บโพสต์ ภาพ หรือความคิดเห็นของผู้ใช้ดังกล่าวไว้ใน Google+ (ผู้อัปโหลด) เข้ามามีส่วนแสดงความคิดเห็น หรือหากมีการส่งต่ออำนาจตัดสินใจไปยังองค์กรร่วมของอุตสาหกรรมที่แต่งตั้งขึ้นเป็นสถาบันกํากับตนเองที่มีการกำกับดูแล หากต้องการให้นำเนื้อหาออกภายใต้ NetzDG เนื้อหาจะต้องเข้าข่ายว่าขัดต่อบทใดบทหนึ่งในบทบัญญัติทางอาญา 21 บทแห่งประมวลกฎหมายอาญาของเยอรมนี (German Criminal Code หรือ StGB) ที่ NetzDG อ้างถึง และเรายังประเมินเนื้อหาดังกล่าวภายใต้หลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของ Google+ ที่ใช้ทั่วโลกด้วย หากเนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์สากล เราจะนำเนื้อหาออกทั่วโลก หากเนื้อหาไม่เข้าข่ายตามนโยบายเหล่านี้ แต่เราพบว่าเนื้อหาผิดกฎหมายภายใต้บทบัญญัติหนึ่งจาก 21 บทใน StGB ที่ NetzDG อ้างถึง (§1 III NetzDG) หรือกฎหมายท้องถิ่นอื่นใด เราจะจำกัดเนื้อหาในพื้นที่นั้นๆ

NetzDG ยังกำหนดให้โซเชียลเน็ตเวิร์กสร้างและเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการจัดการการร้องเรียนดังกล่าว (รายงานเพื่อความโปร่งใส) ปีละ 2 ครั้ง เราปฏิบัติตามภาระหน้าที่ดังกล่าวด้วยการเผยแพร่รายงานนี้ เราอัปเดตรายงานนี้ในกรอบระยะเวลาการรายงานระหว่างเดือนมกราคม - มิถุนายน และระหว่างกรกฎาคม - ธันวาคมของแต่ละปี

เราไม่อนุญาตเนื้อหาผิดกฎหมายใน Google+ เมื่อเราได้รับแจ้งเกี่ยวกับเนื้อหาดังกล่าว เราจะตรวจสอบการร้องเรียนและบล็อกเนื้อหาที่เราระบุว่าผิดกฎหมายนั้นในพื้นที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกการรายงานและการตรวจสอบของเราได้ที่ด้านล่าง

ข้อมูลนี้มีเพียงการร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมายตามความหมายที่ NetzDG ให้ไว้ การร้องเรียนรายการเดียวอาจระบุถึงเนื้อหาหลายชิ้น ซึ่งเราเรียกว่า "รายการ" เรานับโพสต์ รูปภาพ หรือความคิดเห็นใน Google+ แต่ละรายการเป็นรายการ 1 รายการ แผนภูมิด้านล่างแสดงข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนรายการทั้งหมดที่กล่าวอ้างในการร้องเรียนระหว่างระยะเวลาการรายงาน 6 เดือน

แผนภูมิในส่วนนี้แสดงรายละเอียดจำนวนรายการที่มีการรายงานและถูกนำออกหรือบล็อกในระยะเวลาการรายงานนั้นๆ

การแสวงหาข้อเท็จจริงจากข้อความของผู้อัปโหลดหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอื่นๆ เป็นเรื่องยากสำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่างไรก็ตาม NetzDG อนุญาตให้โซเชียลเน็ตเวิร์กติดต่อผู้อัปโหลดได้เมื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อความที่ระบุว่าเป็นข้อเท็จจริง แต่ในการขอคำตอบที่สมเหตุสมผลจากผู้อัปโหลด ผู้ส่งการร้องเรียนจะต้องระบุรายละเอียดและหลักฐานที่พิสูจน์ได้ตามกฎหมายว่าเหตุใดจึงกล่าวหาว่าข้อความนั้นเป็นเท็จ เนื่องจากการร้องเรียนทางกฎหมายภายใต้ NetzDG ส่วนใหญ่พิสูจน์ไม่ได้ (แม้ Google จะขอข้อมูลเพิ่มเติมไปโดยตรงแล้ว) จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอในการขอติดต่อกับผู้อัปโหลดอีกครั้งในกรณีเหล่านี้ การดำเนินการนี้สอดคล้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งใช้เป็นบรรทัดฐานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า แพลตฟอร์มที่โฮสต์จะติดต่อผู้อัปโหลดเนื้อหาได้เมื่อมีการร้องเรียนทางกฎหมายที่พิสูจน์ได้เท่านั้น

มีบางกรณีซึ่งข้องเกี่ยวกับกฎหมายอาญาที่ซับซ้อนและต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับภูมิหลังในพื้นที่โดยเฉพาะ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรที่ถูกแบน ป้ายและท่าทางต้องห้าม และเพลงที่อยู่ในรายการสื่อที่เป็นอันตรายต่อผู้เยาว์ ในสถานการณ์เหล่านี้ เราอาจขอคำปรึกษาจากสถาบันภายนอก เช่น ที่ปรึกษาด้านกฎหมายภายนอกบริษัท หรือหน่วยงานกำกับตนเองแห่งใดแห่งหนึ่งที่เชี่ยวชาญในเรื่องที่เกี่ยวกับ NetzDG

แผนภูมิในส่วนนี้แสดงจำนวนรายการทั้งหมดที่เรานำออกหรือบล็อกในระยะเวลาการรายงานตามเวลาในการดำเนินการ เวลาในการดำเนินการคือเวลาที่ผ่านไปนับจากเวลาที่ได้รับการร้องเรียนและเวลาที่ลบหรือบล็อกรายการที่ถูกรายงาน

แผนภูมินี้แสดงการเปรียบเทียบการนำออกทั่วโลกของรายการที่ได้รับรายงานว่าละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหากับการจำกัดเนื้อหาเฉพาะในพื้นที่ตามบทบัญญัติของ NetzDG โดยแสดงข้อมูลคู่กัน บางรายการอาจละเมิดทั้งหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของเราและบทบัญญัติทางอาญาภายใต้ NetzDG ในกรณีเช่นนี้ เราจะนำรายการออกทั่วโลกเนื่องจากเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหา เช่น ตามที่เห็นในแผนภูมิ มีการนำรายการส่วนใหญ่ที่ถูกรายงานว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศออกจากทั่วโลกตามหลักเกณฑ์ของชุมชนในระยะเวลาการรายงาน ไม่ใช่นำออกเฉพาะในท้องที่ตามบทบัญญัติทางกฎหมายในพื้นที่

Google พึงรักษาเสรีภาพในการแสดงออกและกระจายการเข้าถึงข้อมูล แต่เราต้องสร้างสมดุลระหว่างหลักการทั้งสองข้างต้นโดยพยายามที่จะป้องกันการแพร่กระจายเนื้อหาที่ละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาและ/หรือกฎหมาย เพื่อคงการรักษาชุมชนที่คึกคักและสนุกสนานใน Google+ การดูแลให้เกิดความสมดุลนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มสากลที่ใช้กันในหลากหลายสังคมซึ่งมีระดับเสรีภาพในการพูดแตกต่างกัน

กลไกของการส่งการร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมายตามที่ระบุใน NetzDG

Google+ มีขั้นตอนการรายงานที่ง่ายต่อการจดจำ เข้าถึงได้โดยตรง และพร้อมให้ร้องเรียนภายใต้ NetzDG ภายในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอย่างถาวร ขั้นตอนสำหรับผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าสู่ระบบเพื่อส่งการร้องเรียนทางกฎหมายภายใต้ NetzDG ผสานรวมไว้โดยตรงอย่างเข้าใจง่ายในขั้นตอนการแจ้งว่าไม่เหมาะสม ขั้นตอนดังกล่าวมีอยู่ข้างโพสต์แต่ละโพสต์ที่มุมขวาบน เมื่อผู้ส่งคลิกผ่านขั้นตอนการแจ้งว่าไม่เหมาะสมและเลือกตัวเลือก NetzDG (“ฉันเชื่อว่าควรจำกัดเนื้อหานี้ภายใต้กฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับเครือข่าย") ระบบจะนำไปที่เว็บฟอร์มทางกฎหมายซึ่งผู้ส่งใช้ส่งการร้องเรียนภายใต้ NetzDG ได้

Google+ ยังมีเว็บฟอร์มทางกฎหมายสำหรับ NetzDG ที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ทั้งที่ลงชื่อเข้าสู่ระบบและออกจากระบบผ่านหน้าติดต่อใน Google+ โดยตรง (หน้าติดต่อพร้อมให้บริการสำหรับผู้ใช้ทุกคนในเยอรมนี)

ผู้ใช้ทั่วไปซึ่งไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมีแนวโน้มที่จะรู้สึกหนักใจเมื่อได้เห็นรายการความผิดที่มีความซับซ้อนทั้งหมด หรือแม้กระทั่งรู้สึกถึงความยุ่งยากในการรายงานจนทำให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะรายงานไปในที่สุด ผู้ใช้ทั่วไปดังกล่าวมักไม่เข้าใจและไม่อ้างอิงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของ StGB เมื่อส่งการร้องเรียนทางกฎหมายภายใต้ NetzDG ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อหาที่แจ้งบางรายการอาจมีการกระทำผิดตามรายการที่แสดงไว้มากกว่า 1 ข้อ ตัวอย่างเช่น วิดีโอรายการหนึ่งที่พยายามจะรับสมัครสมาชิกใหม่หรือผู้สนับสนุนรายใหม่ในการก่ออาชญากรรมหรือในองค์กรก่อการร้าย (§ 129, 129a StGB) มักใช้สัญลักษณ์อย่างเช่น ธง ซึ่งเป็นการกระทำที่มีโทษภายใต้ §§ 86, 86a StGB และการกระทำเดียวกันนี้ยังอาจถือว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับการเตรียมการเพื่อกระทำอาชญากรรมร้ายแรงซึ่งเป็นอันตรายต่อรัฐภายใต้ § 89a StGB

ดังนั้น เพื่อช่วยให้ขั้นตอนการแจ้งเรื่องง่ายขึ้นและช่วยผู้ส่งในการรายงานเนื้อหาที่เชื่อว่าอาจผิดกฎหมายภายใต้ NetzDG เราจึงกำหนดหมวดหมู่เนื้อหาขึ้นมา 7 หมวดในขั้นตอนการรายงานภายใต้ NetzDG ที่สอดคล้องกับและสะท้อนให้เห็นถึงความผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้อง 21 รายการ ซึ่งเป็นการจัดหมวดหมู่ความผิดทางอาญาให้เข้าใจง่ายโดยบุคคลทั่วไป วิธีการนี้ยังช่วยให้ความผิดซึ่งมีลักษณะเป็นนามธรรมอย่างมากและมีขอบเขตที่กว้างนั้นเกิดความชัดเจนมากขึ้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย) ตัวอย่างเช่น § 140 StGB อ้างถึงความผิดที่หลากหลาย ตั้งแต่ ความผิดระดับสำคัญ ได้แก่ การกบฏ ฆาตกรรม และอาชญากรรมร้ายแรงอื่นๆ อย่างเช่น อาชญากรรมสงคราม การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ไปจนถึงอาชญากรรมที่เป็นอันตรายต่อสาธารณะ รวมถึงอาชญากรรมทางเพศที่ร้ายแรง ฯลฯ จากประสบการณ์ของเราเกี่ยวกับขั้นตอนการแจ้งเนื้อหา เราพบว่าผู้ใช้ชื่นชอบวิธีการที่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงและมีข้อจำกัดน้อยเพื่อส่งการร้องเรียนเนื้อหาที่ผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิผล

หมวดหมู่เหล่านี้ (และความผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้องซึ่งเราคาดว่าส่วนสำคัญทั้งหมดจะครอบคลุมอยู่ในหมวดหมู่ดังกล่าวและใช้ในการรายงานด้วยการเลือกขึ้นมา) ได้แก่

วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง

• § 130 StGB: การยุยงให้เกิดความเกลียดชัง
• § 166 StGB: การหมิ่นประมาทเกี่ยวกับศาสนา สมาคมทางด้านศาสนาและอุดมการณ์

เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ

• § 86 StGB: การเผยแพร่เนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อขององค์กรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
• § 86a StGB: การใช้สัญลักษณ์ขององค์กรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
• § 89a StGB: การเตรียมการเพื่อกระทำความผิดอาญาร้ายแรงซึ่งเป็นอันตรายต่อรัฐ
• § 91 StGB: การสนับสนุนการกระทำความผิดอาญาร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อรัฐ
• § 100a StGB: การปลอมแปลงที่เป็นการกบฏ (Treasonous forgery)
• § 129 StGB: การก่อตั้งองค์กรอาชญากรรม
• § 129a StGB: การก่อตั้งองค์กรก่อการร้าย
• § 129b StGB: องค์กรอาชญากรรมและองค์กรก่อการร้ายในต่างประเทศ การริบทรัพย์สินเพิ่มเติมและการเพิกถอนสิทธิ์
• § 140 StGB ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ § 138 I StGB: การให้รางวัลสำหรับและการเห็นดีด้วยกับการกระทำความผิดบางอย่างที่แสดงไว้ใน § 138 I StGB
• § 269 StGB: การปลอมแปลงข้อมูลเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ความรุนแรง

• § 131 StGB: การเผยแพร่การบรรยายให้เห็นภาพความรุนแรง

พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย

• § 111 StGB: การยุยงสาธารณชนให้กระทำความผิดทางอาญา
• § 126 StGB: การละเมิดสันติภาพสาธารณะโดยการข่มขู่ว่าจะกระทำความผิด
• § 140 StGB ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ § 126 I StGB: การให้รางวัลสำหรับและการเห็นดีด้วยกับการกระทำความผิดที่แสดงไว้ใน § 126 I StGB
• § 241 StGB: การข่มขู่ว่าจะก่ออาชญากรรม

การหมิ่นประมาทหรือการดูถูก

• § 185 StGB: การดูถูก
• § 186 StGB: การหมิ่นประมาท
• § 187 StGB: การหมิ่นประมาทโดยเจตนา

ความเป็นส่วนตัว

• § 201a StGB: การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วยการถ่ายหรือเผยแพร่ภาพ

เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ

• § 184b StGB: การเผยแพร่ การได้มา และการครอบครองซึ่งสื่อลามกเกี่ยวกับเด็กที่เกี่ยวข้องกับ § 184d StGB: การดำเนินการเผยแพร่สื่อลามกด้วยการออกอากาศ บริการสื่อ หรือบริการโทรคมนาคม
• § 140 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ §§ 176 ถึง 178: การให้รางวัลสำหรับและการเห็นดีด้วยกับการกระทำความผิดบางอย่างที่แสดงไว้ใน §§ 176 ถึง 178

จากประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานทั่วโลกเกี่ยวกับการแจ้งเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เราเชื่อว่าหมวดหมู่เหล่านี้จะช่วยสนับสนุนและทำให้ NetzDG บรรลุจุดมุ่งหมายทางกฎหมายโดยรวมได้เป็นอย่างดี

มาตรการแจ้งให้ผู้ส่งและผู้อัปโหลดทราบตาม NetzDG

เมื่อเราได้รับการร้องเรียนภายใต้ NetzDG ผ่านช่องทางการรายงานของ NetzDG ที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะตามที่อธิบายข้างต้น ผู้ส่งจะได้รับอีเมลยืนยันและหมายเลขอ้างอิงที่ระบุว่าเราได้รับการร้องเรียนแล้วและจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป เมื่อเราตรวจสอบการร้องเรียนและเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมายแล้ว เราจะส่งอีเมลแจ้งผู้ส่งถึงการตัดสินใจของเราในการนำเนื้อหาออกหรือการไม่ดำเนินการใดๆ เรายังแจ้งผู้อัปโหลดเมื่อมีการละเมิดนโยบายหรือกฎหมายอีกด้วย รวมทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำออกเพื่อให้ผู้อัปโหลดใน Google+ ได้รับความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดในการให้บริการของเรา

วิธีการรายงาน

เทคโนโลยี เทคโนโลยีของเราทำงานอยู่เสมอเพื่อตรวจหาการละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาใน Google+ เช่น เนื้อหาที่เป็นสแปมหรือเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ มีการเพิ่มกฎใหม่ๆ ลงในอัลกอริทึมของเราทุกสัปดาห์และทุกเดือน นอกจากนี้เรายังใช้เทคโนโลยีการแฮชเพื่อป้องกันการอัปโหลดซ้ำของรูปภาพที่ Google+ ได้นำออกไปแล้วเนื่องจากละเมิดนโยบายบางอย่าง เช่น ภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เราใช้ลายนิ้วมือดิจิทัลและการจับคู่เพื่อสแกน ระบุ และบล็อกรูปภาพซึ่งมีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กเป็นส่วนประกอบที่อัปโหลดเข้ามา

การแจ้งว่าไม่เหมาะสมจากบุคคล: ผู้ใช้และ Top Contributor เรามีระบบการแจ้งว่าไม่เหมาะสมสำหรับให้ผู้ใช้ที่มีการลงชื่อเข้าใช้แจ้งเตือนเราเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาทั่วโลกของ Google+ ระบบนี้เป็นแบบกํากับตนเองโดยความสมัครใจที่มีขึ้นโดยไม่เกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ตามกฎหมายใดๆ ผู้ใดก็ตามที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google และพบชิ้นเนื้อหาที่อาจละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาทั่วโลก ก็แจ้งมาได้โดยไปยังตัวเลือกการแจ้งว่าไม่เหมาะสมของ Google+ หรือจุด 3 จุดที่มุมขวาบน จากนั้นคลิก “รายงานการละเมิด” แล้วเลือกหมวดหมู่การละเมิดของเนื้อหาซึ่งถูกกล่าวหา เมื่อรายงานปัญหา ผู้ใช้ต้องรายงานว่าเนื้อหาละเมิดนโยบายใด หมวดหมู่ในการรายงานเกี่ยวกับนโยบายและเหตุผลในการนำออกรวมถึงเนื้อหาทางเพศที่โจ่งแจ้ง เนื้อหารุนแรงหรือเป็นอันตราย เนื้อหาสร้างความเกลียดชัง เนื้อหาที่คุกคามหรือกลั่นแกล้ง และสแปม การแจ้งว่าไม่เหมาะสมในชุมชนได้รับการประเมินโดยอิงตามหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของเราเท่านั้น

โปรแกรม Top Contributor พัฒนาขึ้นมาสำหรับผู้ใช้ Google+ กลุ่มย่อยที่กำหนดล่วงหน้าเพื่อเป็นช่องทางในการจัดลำดับความสำคัญให้แก่ทีมตรวจสอบเนื้อหาของ Google+ โดย Top Contributor เหล่านี้หยิบยกเทรนด์หรือกรณีล่อแหลมโดยอิงตามความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ซึ่งได้มาจากการใช้เวลาตอบคำถามในฟอรัมของเรามาอย่างยาวนาน Top Contributor จะแจ้งการละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาในผลิตภัณฑ์ ซึ่งจากนั้นจะมีการส่งเรื่องต่อไปยังทีมตรวจสอบเนื้อหา การแจ้งจาก Top Contributor ได้รับการตรวจสอบภายใต้หลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของเราเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม Top Contributor ได้ที่นี่

การร้องเรียนทางกฎหมาย เราพัฒนาขั้นตอนเฉพาะขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้แจ้งเราได้ง่ายๆ โดยตรงหากเชื่อว่าเนื้อหาที่โพสต์ใน Google+ ละเมิดบทบัญญัติที่อยู่ภายใต้ NetzDG ผู้ใช้จะรายงานเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมายได้โดยการไปยังตัวเลือกการแจ้งว่าไม่เหมาะสมของ Google+ ผ่านจุด 3 จุดที่มุมขวาบนของเนื้อหาที่โพสต์ แล้วเลือก “ฉันเชื่อว่าควรจำกัดเนื้อหานี้ภายใต้กฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับเครือข่าย" ผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้และผู้ใช้ที่ออกจากระบบแล้วจะยื่นการร้องเรียนภายใต้ NetzDG ได้ด้วยโดยใช้เว็บฟอร์มของ NetzDG ซึ่งเข้าถึงได้ที่หน้าติดต่อของ Google+ ผู้ส่งจะได้รับการตอบกลับที่ยืนยันว่าเราได้รับการร้องเรียนแล้ว ช่องทางการรายงานเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ระบุเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดปัญหาและให้เหตุผลสำหรับการร้องเรียนทางกฎหมาย เราจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนี้เพื่อทำการตรวจสอบทางกฎหมายให้ถูกต้องและดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป หากเหตุผลที่ระบุไม่ชัดเจนหรือการให้เหตุผลว่าชอบด้วยกฎหมายไม่เพียงพอสำหรับการนำเนื้อหาออกตามกฎหมายท้องถิ่น เราอาจขอให้ผู้ส่งการร้องเรียนส่งข้อมูลเพิ่มเติม หากเนื้อหาที่รายงานละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของ Google+ เราจะนำเนื้อหาออกจากระบบของเราทั่วโลก หากเนื้อหาไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์เหล่านี้ แต่ละเมิดบทบัญญัติทางอาญาที่ NetzDG อ้างถึงบทใดบทหนึ่งหรือมากกว่า เราจะบล็อกเนื้อหานั้นในพื้นที่ ผู้ส่งจะได้รับหนังสือแจ้งทางอีเมลจาก Google+ พร้อมผลการตัดสินใจและเหตุผลในการตัดสินใจของเรา

เรามีเว็บฟอร์มทางกฎหมายโดยเฉพาะไว้ให้ผู้ใช้ส่งการร้องเรียนทางกฎหมายมาหลายปีแล้ว และเราได้บล็อกเนื้อหาที่พบว่าผิดกฎหมายในเขตอำนาจศาลที่เกี่ยวข้อง ผู้ส่งจะได้รับการตอบกลับเป็นข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการร้องเรียนทางกฎหมายทุกครั้ง

ขั้นตอนการประเมิน

การแจ้งว่าไม่เหมาะสมจากบุคคลของ Google+ ชุมชนออนไลน์ เมื่อเราได้รับการแจ้งว่าไม่เหมาะสม ทีมตรวจสอบจะประเมินเนื้อหาภายใต้หลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาทั่วโลกของ Google+ ทีมจะดูบริบทโดยรอบระหว่างการตรวจสอบเนื้อหาที่ถูกรายงานได้ เช่น พาดหัวของรูปภาพในโพสต์หรือคำอธิบาย Google+ ชุมชนออนไลน์ เบาะแสทางบริบทเหล่านี้มักเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินเจตนาของการอัปโหลด เช่น ชุมชนการเมืองเกี่ยวกับเหตุการณ์ในขณะนั้นมีแนวโน้มที่จะได้รับอนุญาตภายใต้นโยบายทั่วโลกของเรา เราอาจจำเป็นต้องทำความเข้าใจบริบทนี้จากคำอธิบายของชุมชนและเนื้อหาอื่นๆ ที่อัปโหลดไว้ แต่เนื้อหาเดียวกันที่อัปโหลดเพื่อสรรเสริญหรือสนับสนุนมุมมองที่แสดงความเกลียดชังมีแนวโน้มที่จะละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของเราและจะถูกนำออก

เราได้พัฒนาหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาที่ตั้งกฎที่ใช้ร่วมกันเกี่ยวกับประเภทเนื้อหาที่เราอนุญาต ซึ่งหลายข้อก็ทับซ้อนกับบทบัญญัติของ NetzDG กฎเหล่านี้ได้แก่ หลักเกณฑ์ที่ไม่อนุญาตวาจาสร้างความเกลียดชัง การคุกคาม การกลั่นแกล้ง และการข่มขู่ ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลลับ การหาผลประโยชน์จากเด็ก เนื้อหาทางเพศที่โจ่งแจ้ง ความรุนแรง และเนื้อหาจากผู้ก่อการร้าย อ่านนโยบายของแต่ละด้านข้างต้นโดยละเอียดได้ที่นี่

ทีมตรวจสอบดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ได้ นำเนื้อหาออกทั่วโลกหากเนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ทำเครื่องหมายว่า “ไม่เหมาะสำหรับเยาวชน” หากเนื้อหาไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์แต่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้เยาว์ หรือเผยแพร่เนื้อหาต่อไปหากพบว่าไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์ หากมีการละเมิดซ้ำๆ หรือการละเมิดมีความรุนแรงมากขึ้น เราอาจลงโทษผู้ใช้ด้วยการปิดใช้บางฟีเจอร์หรือสิ้นสุดบัญชีของผู้ใช้ แต่เราอาจสิ้นสุดบัญชีตั้งแต่การละเมิดครั้งแรกสำหรับการละเมิดที่รุนแรงมาก เช่น การก่อการร้าย

การรายงานทางกฎหมายโดยทั่วไป เมื่อเราได้รับการร้องเรียนทางกฎหมาย ทีมตรวจสอบจะดำเนินการตรวจสอบโดยอิงตามข้อมูลที่ระบุในการร้องเรียนและเนื้อหาที่อ้างถึง นอกจากนี้ ทีมตรวจสอบจะดูบริบทโดยรอบของเนื้อหาที่รายงานตามที่อธิบายด้านบน ในกรณีที่ไม่ได้ระบุข้อมูลสำคัญในการร้องเรียน เช่น ตัวตนของบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาท ทางทีมอาจติดต่อหาผู้ส่งการร้องเรียนเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อได้รับข้อมูลนี้แล้ว ทีมจะทำการประเมินทางกฎหมาย หากเราพบว่าเนื้อหาผิดกฎหมาย เช่น ในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์หรือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง เราจะบล็อกเนื้อหาดังกล่าวในพื้นที่

การร้องเรียนภายใต้ NetzDG ตามขั้นตอนการตรวจสอบของเรา เมื่อเราได้รับคำขอภายใต้ NetzDG ทีมตรวจสอบซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเกี่ยวกับ NetzDG (ดูส่วน "ทีมตรวจสอบ") ซึ่งเห็นบริบทโดยรอบของเนื้อหาที่รายงานจะทำการประเมินเนื้อหานั้นว่าขัดกับหลักเกณฑ์ของชุมชนของเราหรือไม่ จากนั้นจะนำเนื้อหาที่มีการละเมิดออกจากระบบของเราทั่วโลก หากเนื้อหาไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์ แต่ละเมิดบทบัญญัติบทใดบทหนึ่งหรือมากกว่าในบทบัญญัติทั้ง 21 บทของ StGB ที่อยู่ภายใต้ NetzDG (§1 III NetzDG) เราจะบล็อกเนื้อหานั้นในพื้นที่

การประเมินการร้องเรียนมักจะทำได้ยาก ความผิดอาญาบางอย่างนั้นยากจะอธิบายได้ แม้กระทั่งสำหรับทนายความ เช่น การปลอมแปลงข้อมูลเพื่อใช้เป็นหลักฐาน (§ 269 StGB) อีกตัวอย่างคือ ความผิดทั้งหมดในหมวดหมู่การหมิ่นประมาทและการดูถูกซึ่งเป็นความผิดที่มีกฎหมายที่อิงคำพิพากษาอยู่มากมายและครอบคลุมตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาตั้งแต่เมื่อรัฐธรรมนูญเยอรมนีมีผลบังคับใช้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อเป็นเรื่องการหมิ่นประมาทและการดูถูก จะมีกรณีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน บางครั้งศาลใช้เวลาพิจารณาความถูกต้องตามกฎหมายของเนื้อหาชิ้นหนึ่งเป็นเวลาหลายปีแต่ก็ยังได้ข้อสรุปที่ไม่เหมือนกัน เช่น ศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐได้กลับคำตัดสินของศาลฎีกาแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นหลายต่อหลายครั้งว่าต้องมีการทดสอบสมดุลที่ซับซ้อน และความถูกต้องตามกฎหมายจะเป็นไปตามสถานการณ์เสมอโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละกรณี บางครั้งโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ไม่มีข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนเหมือนกระบวนการพิจารณาคดี อีกทั้งไม่มีการพิจารณาคดีหลักที่กำหนดให้ใช้ข้อบังคับเกี่ยวกับหลักฐาน ในกรณีเหล่านี้จึงยากมากในการตัดสินว่าจะยอมรับเนื้อหาได้หรือไม่เมื่อวัดด้วยองค์ประกอบเฉพาะของความผิด และโดยทั่วไปควรให้ศาลที่รับผิดชอบเป็นผู้ตัดสินใจ

เราใช้ธรรมเนียมปฏิบัติจริงมาร่วมในการพิจารณากรณีเหล่านี้ด้วย การร้องเรียนจำนวนมากภายใต้ NetzDG ในเรื่องการหมิ่นประมาทและการดูถูกไม่ได้ส่งมาโดยผู้ที่ได้รับผลกระทบ แต่ส่งมาจากบุคคลที่สามซึ่งคาดเดาว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจรู้สึกว่าถูกหมิ่นประมาท โซเชียลเน็ตเวิร์กจะไม่ทราบว่าเป็นเช่นนั้นจริงไม่ หรือผู้ได้รับผลกระทบได้ยื่นการร้องเรียนทางอาญาต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ (เพราะการฟ้องคดีสำหรับความผิดเหล่านี้จะต้องมีการร้องเรียนจากบุคคลที่หนึ่ง (“Antragsdelikt”)) เนื่องจากเราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะยืนยันตัวตนของผู้ส่ง

คำขอภายใต้ NetzDG ได้รับการตรวจสอบจากทีม NetzDG ของเราซึ่งแบ่งการทำงานเป็น 2 กะทุกวันไม่เว้นวันหยุดจนกระทั่งมีการเลิกใช้งาน Google+ เพื่อให้การนำเนื้อหาออกจากระบบของเราทั่วโลกหรือการบล็อกเนื้อหาในพื้นที่เป็นไปได้ภายในข้อจำกัดของกรอบเวลาตามที่ NetzDG กำหนด หากคำขอใดไร้มูลความจริงอย่างชัดเจน จะมีการแจ้งไปยังผู้ขอโดยทันทีตามข้อกำหนดทางกฎหมาย (ดูส่วน “มาตรการแจ้งให้ผู้ส่งและผู้อัปโหลดทราบตาม NetzDG”) หากเนื้อหานั้นไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาทั่วโลกของ Google+ หรือบทบัญญัติทางอาญาที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน หรือเนื้อหานั้นมีความซับซ้อนหรือไม่ได้เกี่ยวกับประเทศเยอรมนีอย่างชัดเจน ผู้ตรวจสอบเนื้อหา NetzDG ที่รับผิดชอบจะส่งต่อคำขอไปยังระดับถัดไปเพื่อให้มีการตรวจสอบทันที จากนั้นผู้ตรวจสอบเนื้อหาอาวุโสจะดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป จะมีการส่งคำขอที่ซับซ้อนไปยังทีมกฎหมายของ Google ซึ่งหากมีข้อสงสัย จะส่งต่อกรณีที่ยากและล่อแหลมไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ Google Germany GmbH ซึ่งมีตัวเลือกในการส่งต่อกรณีที่ยากมากไปยังสำนักงานกฎหมายภายนอกที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญา ปกติแล้วขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน

เราได้จัดให้มีขั้นตอนการประเมินคุณภาพอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าทีม NetzDG จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ รวมทั้งใช้หลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาทั่วโลกของ Google+ และความผิดอาญาภายใต้ NetzDG อย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน เราได้ตรวจสอบเนื้อหาที่ผ่านการตรวจสอบราว 70% ในระยะเวลาการรายงานดังกล่าว จำนวนรายการที่ทำการประเมินคุณภาพอาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละสัปดาห์โดยขึ้นอยู่กับจำนวนคำขอที่ส่งเข้ามา ในระหว่างขั้นตอนนี้ ทีมตรวจสอบคุณภาพจะประเมินการตัดสินใจของผู้ตรวจสอบเนื้อหาแต่ละคน ให้ความคิดเห็นแบบรายบุคคล และทำการวิเคราะห์ผลการตรวจสอบคุณภาพโดยรวม ตัวอย่างคุณภาพที่เลือกไว้จะใช้เป็นฐานสำหรับภาพรวมข้อมูลคุณภาพรายสัปดาห์ ผู้ตรวจสอบคุณภาพเป็นทีมที่แยกออกมาจากทีม NetzDG และมีสมาชิกในทีมระดับอาวุโสที่เคยผ่านงานด้านการตรวจสอบเนื้อหาและมีประสบการณ์มากทางด้านบทบัญญัติทางอาญาที่อ้างถึงใน NetzDG รวมทั้งในเรื่องหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาทั่วโลกของ Google+ ด้วย ในการประชุมประจำสัปดาห์ระหว่างทีมกฎหมายของ Google และทีม NetzDG นอกเหนือจากการพูดคุยเกี่ยวกับผลการประเมินคุณภาพครั้งล่าสุดแล้ว ยังมีการกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับกรณีที่น่าสนใจ ยาก และซับซ้อนเป็นพิเศษอีกด้วย นอกจากนั้น ยังได้มีการหยิบยกเทรนด์ที่โดดเด่น, “ประเด็นร้อน” ในขณะนั้น และความคืบหน้าของกฎหมายจากคดีพิพาทใหม่ๆ มาหารือกันอย่างเต็มที่เพื่อให้มีวิธีการทำงานที่สอดคล้องกันในทีม NetzDG เมื่อเหมาะสม เราจะปรับแต่งนโยบายการนำออกให้เหมาะกับหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ที่มีการปรับปรุงและคำพิพากษาล่าสุดที่นำมาเป็นบรรทัดฐานของกฎหมาย เป็นต้น ในกรณีดังกล่าว ได้มีการจัดเตรียมคำแนะนำใหม่ๆ ให้แก่สมาชิกทุกคนในทีม NetzDG รวมทั้งเนื้อหาการฝึกอบรมด้วยหากเหมาะสม

การแจ้งปัญหาเกี่ยวกับนโยบายและการร้องเรียนทางกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน Google+ ได้รับการตรวจสอบจากพนักงานของ Google หรือผู้ให้บริการที่ว่าจ้างมา เรามีเฟรมเวิร์กการตรวจสอบคุณภาพสูงเพื่อดูแลให้พนักงานทั่วโลกของเราตัดสินใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกรายงานได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน และมีการให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานแต่ละคนเป็นประจำ

ทีมนโยบายและการบังคับใช้ของ Google+ ซึ่งประเมินการแจ้งว่าไม่เหมาะสมในชุมชนตามหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของ Google+ มีสมาชิกจากทั่วโลกที่เชี่ยวชาญภาษาต่างๆ หลายภาษา รวมถึงภาษาเยอรมัน ด้วยเหตุผลที่เนื้อหาที่ถูกรายงานเข้ามามักมีลักษณะที่ส่งผลกระทบต่อจิตภาวะของผู้ตรวจสอบ Google จึงมีโปรแกรมสุขภาวะ ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวหรือแบบกลุ่ม และกิจกรรมเพื่อสุขภาวะอื่นๆ สำหรับพนักงานแต่ละคน

สมาชิกบางคนในทีมที่ทำงานด้านการร้องเรียนทางกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน Google+ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่รู้ภาษาเยอรมันและมีปริญญาด้านนิติศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ซึ่งผ่านการฝึกอบรมด้านกฎหมายท้องถิ่นทุกคนจะหารือกับที่ปรึกษาของ Google ในพื้นที่ ทีมอาจขอคำปรึกษาทางกฎหมายเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาทางกฎหมายภายนอกในพื้นที่ในกรณีที่จำเป็น

ทีม NetzDG สำหรับการร้องเรียนภายใต้ NetzDG เราได้จัดให้มีทีมผู้ชำนาญการจากผู้ให้บริการภายนอกในเยอรมนี (ทีม NetzDG) จำนวนผู้ตรวจสอบเนื้อหาแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับจำนวนคำขอภายใต้ NetzDG ที่ส่งเข้ามา ทีมนี้อยู่ในสังกัดของทีม NetzDG ของ YouTube ในระยะเวลาการรายงานดังกล่าวจนกระทั่งมีการเลิกใช้งาน Google+ ทีมมีสมาชิกทั้งสิ้น 11 คน บทบาทของสมาชิกในทีมมีดังนี้ สมาชิกจำนวน 8 คนทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบเนื้อหา (รวมถึงผู้ตรวจสอบเนื้อหาอาวุโส) โดยได้รับการควบคุมดูแลจากหัวหน้าทีม 1 คน และได้รับการสนับสนุนจากผู้ตรวจสอบคุณภาพ 1 คนและผู้ฝึกอบรม 1 คน

ผู้ตรวจสอบของเรามีประสบการณ์การทำงานในสาขาที่หลากหลาย พูดภาษาต่างๆ และมีอายุต่างกันในช่วง 20-45 ปี ทั้งนี้เพื่อให้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม สมาชิกในทีม NetzDG เป็นผู้พูดภาษาเยอรมันโดยกำเนิด และยังใช้ภาษาอังกฤษได้อีกด้วย สมาชิกในทีม NetzDG บางคนใช้ภาษาต่อไปนี้ได้อย่างน้อย 1 ภาษา ได้แก่ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สเปน และโปรตุเกส ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อต้องทำการประเมินลิงก์ในภาษาอื่นๆ ที่อาจส่งผู้ใช้ไปยังเยอรมนี สมาชิกในทีม NetzDG จำนวนครึ่งหนึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทสาขาต่างๆ เช่น รัฐศาสตร์ นิเทศศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือครุศาสตร์ สมาชิกในทีมบางรายผ่านการฝึกงานในสาขาต่างๆ เช่น การติดต่อสื่อสารในสำนักงานและการค้าต่างประเทศ สมาชิกในทีมคนอื่นๆ เพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนมาไม่นาน

สมาชิกในทีม NetzDG แต่ละคนได้รับการฝึกอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติงานโดยทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาทั่วโลกของ Google+ ขั้นตอนต่างๆ และระบบทางเทคนิคของเรา รวมทั้งการฝึกอบรมทางกฎหมายเกี่ยวกับความผิดทางอาญาภายใต้ NetzDG นอกเหนือจากการฝึกอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติงานแล้ว เรายังจัดการฝึกอบรมภาคบังคับเพื่อทบทวนความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับ NetzDG ทุกๆ 6 เดือน การฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้จัดขึ้นเป็นภาษาเยอรมันโดยทีมที่โดยปกติจะประกอบด้วยอาจารย์ทางด้านกฎหมาย ทนายความคดีอาญา และสมาชิกจากทีมกฎหมายของ Google โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google Germany GmbH เราแบ่งการฝึกอบรมเหล่านี้ออกเป็นหลายเซสชันเพื่อให้สมาชิกในทีมทุกคน รวมถึงหัวหน้าทีม ผู้ตรวจสอบคุณภาพ และผู้ฝึกอบรมเข้าร่วมการฝึกอบรมได้ทุกคน และได้รับโอกาสมากพอในการหารือกันเกี่ยวกับคำถามและตัวอย่างที่เป็นที่ถกเถียงกัน (มีการรวบรวมไว้ล่วงหน้า) นอกจากนี้ เรายังได้จัดการฝึกอบรมทางกฎหมายแบบเฉพาะกิจตามความจำเป็นนำโดยทีมกฎหมายของ Google โดยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ Google Germany GmbH เราใช้รูปแบบ “ฝึกการเป็นผู้ฝึกอบรม” ซึ่งหมายความว่าเราจะจัดการฝึกอบรมให้กับผู้ฝึกอบรมที่กำหนดตัวไว้ของทีม NetzDG ซึ่งจะรับผิดชอบในการจัดการฝึกอบรมแก่สมาชิกคนอื่นๆ ในทีม NetzDG ต่อไป ทั้งการฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้และการฝึกอบรมทางกฎหมายแบบเฉพาะกิจจะครอบคลุมเหตุการณ์ในขณะนั้น เทรนด์ต่างๆ กฎหมายจากคดีพิพาทใหม่ และคำขอประเภทต่างๆ ที่ประเมินได้ยากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา

ทีม NetzDG ยังได้ประโยชน์จากการฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำ การฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้เหล่านี้อธิบายถึงพัฒนาการใหม่ๆ และเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับทางทีม เช่น เกี่ยวกับวาจาสร้างความเกลียดชังและความปลอดภัยของเด็ก นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมเฉพาะทางสำหรับด้านที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ เช่น อาวุธ การล้อเล่นและการท้าทายที่เป็นอันตราย การรักษาความปลอดภัยทางดิจิทัล และเนื้อหาหลอกลวง การฝึกอบรมตามหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาเหล่านี้ดำเนินการโดยผู้จัดการการบังคับใช้นโยบายร่วมกับสมาชิกในทีมกฎหมายของ Google นอกจากนี้ ทีม NetzDG ยังได้รับอัปเดตรายสัปดาห์และอัปเดตด่วนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาเมื่อเกี่ยวข้องกับทีม

เราจัดให้มีโปรแกรมสุขภาวะประสิทธิภาพสูงและการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตสำหรับสมาชิกในทีม NetzDG เช่น การฝึกอบรมตามปกติและตามคำขอ และเซสชันการให้คำปรึกษาแบบรายบุคคลเป็นภาษาเยอรมันจากทีมที่จัดขึ้นโดยเฉพาะซึ่งประกอบด้วยนักจิตวิทยา นักบำบัด และผู้ฝึกอบรมที่รู้ภาษาเยอรมัน สมาชิกในทีมขอรับการปรึกษาได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทางสายด่วนเพื่อการช่วยเหลือ และเรายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนับสนุนสุขภาวะ ซึ่งรวมถึงพื้นที่แยกต่างหากและพื้นที่ส่วนตัวเฉพาะสำหรับเซสชันการให้คำปรึกษาแบบรายบุคคล การดำเนินการนี้สอดคล้องกับโปรแกรมสุขภาวะที่เราจัดเตรียมไว้สำหรับทีมตรวจสอบทั้งหมดใน Google นอกจากนี้ ทีมยังได้รับส่วนลดอัตราค่าสมาชิกของฟิตเนสและสถานออกกำลังกายอีกด้วย

ระหว่างระยะเวลาการรายงานดังกล่าว มีการนำเสนอ Google+ ผ่าน Google ในสมาคมต่อไปนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับ NetzDG

• Freiwillige Selbstkontrolle Multimedia-Diensteanbieter e.V. (FSM)
• eco - Verband der Internetwirtschaft e.V.
• Deutschland sicher im Netz e.V.
• Bitkom-Bundesverband Informationswirtschaft, Telekommunikation und neue Medien e.V.

FSM และ eco ดำเนินการสายด่วนที่ผู้บริโภคจะโทรเข้ามาร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่อาจผิดกฎหมายได้ จากนั้นจะมีการส่งต่อการร้องเรียนไปให้ทีมตรวจสอบของเราประเมิน ในแต่ละกรณี เราจะส่งข้อคิดเห็นโดยละเอียดเกี่ยวกับการตัดสินใจกลับไปยังสายด่วนการรายงานดังกล่าว

เราเชื่อว่าการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะมีการเลิกใช้งาน Google+ หรือไม่ก็ตาม Google จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับกลุ่มประชาสังคมซึ่งมีพันธกิจในการขจัดวาจาสร้างความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติให้หมดสิ้นไป และร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทในพื้นที่และพัฒนาหนทางแก้ปัญหา เราตรวจทานแนวทางการบังคับใช้นโยบายของเรากับพาร์ทเนอร์และผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำและเชิญหน่วยงาน NGO ให้เข้ามามีส่วนร่วมในเวิร์กช็อปที่จัดขึ้นในพื้นที่หรือทั่วประเทศเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายของเราและข่าวสารอัปเดตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ฝึกอบรมการใช้บริการของ Google รวมถึงมาตรการความปลอดภัย และพูดคุยเกี่ยวกับอุปสรรคและปัญหาหลักที่พบในปัจจุบัน