รายงานเพื่อความโปร่งใส

การนำเนื้อหาออกภายใต้กฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับเครือข่าย

กฎหมายว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมายในโซเชียลเน็ตเวิร์ก (NetzDG) มีผลบังคับใช้ในเยอรมนีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2017 กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้มีกระบวนการที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพในการจัดการกับการร้องเรียนให้ลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายตามที่ NetzDG จำกัดความไว้ รวมถึงกำหนดภาระหน้าที่ให้โซเชียลเน็ตเวิร์กเผยแพร่รายงานเพื่อความโปร่งใสปีละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยกฎหมายบริการดิจิทัล (Digital Services Act หรือ DSA) ของสหภาพยุโรปมีความสำคัญเหนือกว่า จึงทำให้ NetzDG ไม่มีผลบังคับใช้กับ YouTube ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2023 เป็นต้นไป

โดยรายงานที่ยังคงปรากฏอยู่ที่นี่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรและกระบวนการของเรา รวมถึงจำนวนการร้องเรียนและจำนวนเนื้อหาที่นำออก ตลอดจนข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและนโยบายการนำเนื้อหาออก โปรดทราบว่ารายงานที่ปรากฏอยู่ที่นี่ไม่มีข้อมูลปัจจุบันเกี่ยวกับกรณีเหล่านี้และอาจเก่าเกินไป

การนำเนื้อหาออกจาก YouTube โดยอิงตามกฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับเครือข่าย

กฎหมายว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมายในโซเชียลเน็ตเวิร์ก (Network Enforcement Law หรือ NetzDG) กำหนดให้โซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 2 ล้านคนในเยอรมนีดำเนินการลบเนื้อหาที่ "ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน" (เช่น วิดีโอหรือความคิดเห็น) ออกจากในพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมายตาม NetzDG (ต่อจากนี้จะเรียกว่า "การร้องเรียน" เท่านั้นหรือ "การร้องเรียนภายใต้ NetzDG") หากความผิด (หรือไม่ผิด) ต่อกฎหมายนั้นไม่ชัดเจน โดยปกติแล้วผู้ให้บริการจะมีเวลาในการตัดสินใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวได้ถึง 7 วัน ในบางกรณีที่เป็นข้อยกเว้น ผู้ให้บริการอาจใช้เวลานานกว่านี้ได้ ตัวอย่างเช่น หากมีการขอให้ผู้ใช้ที่อัปโหลดเนื้อหา ซึ่งระบบจัดเก็บวิดีโอหรือความคิดเห็นของผู้ใช้คนดังกล่าวไว้ใน YouTube (ผู้อัปโหลด) เข้ามามีส่วนแสดงความคิดเห็น หรือหากมีการส่งต่ออำนาจตัดสินใจไปยังองค์กรร่วมของอุตสาหกรรมที่แต่งตั้งขึ้นเป็นสถาบันกํากับตนเองที่มีการกำกับดูแล หากต้องการให้นำเนื้อหาออกภายใต้ NetzDG เนื้อหาจะต้องเข้าข่ายว่าขัดต่อบทใดบทหนึ่งในบทบัญญัติทางอาญา 22 บทแห่งประมวลกฎหมายอาญาของเยอรมนี (German Criminal Code หรือ StGB) ที่ NetzDG อ้างถึง (มาตรา 1 (3) NetzDG) เราตรวจสอบการร้องเรียนภายใต้ NetzDG ทั้งหมดตามการกระทำผิดทางอาญาที่ระบุไว้ในมาตรา 1 (3) NetzDG หากเราพบว่าเนื้อหาผิดกฎหมายตามมาตรา 1 (3) NetzDG เราจะจำกัดเนื้อหาดังกล่าวในพื้นที่ หากเนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ทั่วโลกของเราอย่างชัดเจน เราจะนำเนื้อหาดังกล่าวออกทั่วโลก

รัฐบัญญัติต่อต้านลัทธิหัวรุนแรงฝ่ายขวาและอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง (The Act to Combat Right-Wing Extremism and Hate Crime) ได้ขยายเนื้อหาของการกระทำผิดทางอาญาที่ระบุในมาตรา 1 (3) ของ NetzDG ตัวอย่างเช่น การกระทำผิดฐานรบกวนความสงบสุขของประชาชนด้วยการขู่ว่าจะกระทำผิด (มาตรา 126) และการกระทำผิดฐานให้รางวัลหรือเห็นดีด้วยกับการกระทำผิด (มาตรา 140) ได้รับการแก้ไขให้รวมถึงการกระทำผิดฐานก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย (มาตรา 224) ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มมาตรา 189 StGB (การทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับผู้ตายมัวหมอง) เป็นการกระทำผิดทางอาญาที่ระบุไว้ใน NetzDG เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2022 ด้วย การขยายและการเพิ่มดังกล่าวทำให้เกิดเงื่อนไขเพิ่มเติมทางกฎหมายที่คลุมเครือในการตรวจสอบที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะตัดสินไม่ถูกต้องมากขึ้น

NetzDG ยังกำหนดให้โซเชียลเน็ตเวิร์กสร้างและเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการจัดการการร้องเรียนดังกล่าว (รายงานเพื่อความโปร่งใส) ปีละ 2 ครั้ง เราปฏิบัติตามภาระหน้าที่ดังกล่าวด้วยการเผยแพร่รายงานนี้ เราอัปเดตรายงานนี้ในกรอบระยะเวลาการรายงานระหว่างเดือนมกราคม - มิถุนายน และระหว่างกรกฎาคม - ธันวาคมของแต่ละปี รายงานเริ่มต้นที่พร้อมให้ใช้งานที่นี่ครอบคลุมระยะเวลาการรายงานก่อนหน้านี้ แต่ผู้ใช้จะดูข้อมูลจากระยะเวลาการรายงานก่อนหน้าได้ด้วย คุณดาวน์โหลดรายงานฉบับปัจจุบันได้ที่ท้ายรายงานนี้

หมายเหตุทั่วไปเกี่ยวกับวิธีที่เราจัดการกับเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมาย

ปัจจุบันมีการอัปโหลดวิดีโอใน YouTube กว่า 500 ชั่วโมงต่อนาที ทำให้ YouTube เป็นแหล่งหนึ่งที่รวมวัฒนธรรมของผู้คนไว้ในที่เดียวซึ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา หรือเรียกได้ว่าเป็นชุมชนที่ผู้คนทั่วโลกสร้างและแชร์ไอเดียและความคิดเห็นได้นั่นเอง YouTube ต้องดูแลให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามกฎเพื่อปกป้องและรักษาชุมชนนี้เอาไว้ หลักเกณฑ์ของชุมชนไม่อนุญาตเนื้อหาบางหมวดหมู่ ซึ่งรวมถึงเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศอย่างโจ่งแจ้ง สแปม วาจาสร้างความเกลียดชัง การล่วงละเมิด และการปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง ในกรณีที่เนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน เราจะนำออกหรือจำกัดการเข้าถึงทั่วโลก YouTube ดำเนินการคืบหน้าไปอย่างมากในการบังคับใช้หลักเกณฑ์ต่างๆ ผ่านการใช้เฟรมเวิร์ก "คนและคอมพิวเตอร์ (people + machine)" ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในรายงานการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube

เราเคารพกฎหมายของเยอรมนีและกฎหมายท้องถิ่นอื่นๆ เมื่อได้รับการร้องเรียนให้นำเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมายออก เราจะตรวจสอบการร้องเรียนแต่ละรายการอย่างระมัดระวัง หากเนื้อหาละเมิดกฎหมายท้องถิ่นและเราระบุว่าผิดกฎหมาย เราจะบล็อกเนื้อหานั้นในพื้นที่ดังกล่าว เราใช้วิธีการเดียวกันนี้กับคำขอทางกฎหมายอื่นๆ ที่ขอให้นำเนื้อหาออก ตามที่เราอธิบายรายละเอียดไว้ในรายงานนี้ การจะตัดสินว่าเนื้อหามีความผิดภายใต้กฎหมายท้องถิ่นหรือไม่นั้น ถือเป็นการตัดสินด้วยการประเมินทางกฎหมายที่ยากมากอย่างหนึ่งสำหรับผู้ตรวจสอบของ YouTube

ความพยายามของ YouTube ในการสร้างชุมชนออนไลน์ทั่วโลกที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากขาดความพยายามของทีมที่ทำงานหลายด้าน ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย นักกฎหมาย วิศวกร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ นักวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ตรวจสอบเนื้อหา นักวิเคราะห์การปฏิบัติการ นักวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และอีกมากมาย นอกจากนี้ ข้อมูลจากชุมชนผู้ใช้ทั่วโลก, NGO, รัฐบาล และพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีแห่งอื่นๆ ล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างแพลตฟอร์ม YouTube ที่ทำงานให้กับผู้ใช้และครีเอเตอร์ทั่วโลกให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้

รายการที่ได้รับรายงาน

ข้อมูลนี้มีเพียงการร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมายตามความหมายที่ NetzDG มาตรา 1 ย่อหน้า 3 ระบุไว้ (แต่ไม่ใช่การร้องเรียนที่ได้รับผ่านช่องทางการรายงาน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ทำให้มีการประเมินตามที่ระบุใน NetzDG)

คำว่า "การร้องเรียน" หมายถึงรายการเดียวในรายงานเพื่อความโปร่งใสนี้ หากมีหลายรายการ (เช่น วิดีโอหรือความคิดเห็นหลายรายการ) ได้รับการร้องเรียนภายใต้ NetzDG เราจะนับ 1 การร้องเรียนต่อรายการ ตัวอย่างเช่น หากได้รับการร้องเรียนภายใต้ NetzDG ที่กล่าวถึงวิดีโอ 3 รายการต่างกัน เราจะนับเป็นการร้องเรียน 3 รายการ ซึ่งก็คือ 1 การร้องเรียนต่อ 1 วิดีโอที่ได้รับรายงาน ดังนั้นเราจะนับการร้องเรียนแต่ละรายการในวิดีโอหรือความคิดเห็นเป็นรายการเดียวในรายงานนี้ แผนภูมิด้านล่าง (ทำเครื่องหมายเป็นรายการ) แสดงข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนการร้องเรียนเรื่องรายการต่างๆ ที่ส่งมาระหว่างระยะเวลาการรายงาน 6 เดือน

รายการทั้งหมดที่รายงาน
193,131
ตัวเลขด้านบนแสดงจำนวนรายการทั้งหมดที่เราได้รับรายงานในระยะเวลาการรายงาน

รายการทั้งหมดแยกตามผู้ส่งคำขอ

จำนวนรายการที่มีการรายงานผู้ใช้หน่วยงาน020,00040,00060,00080,000100,000120,000140,000130,55962,572
Entityจำนวนรายการที่มีการรายงาน
ผู้ใช้130,559
หน่วยงาน62,572

แผนภูมิด้านบนแสดงจำนวนรายการที่เราได้รับรายงานในระยะเวลาการรายงานแยกตามประเภทของผู้ส่ง (ผู้ใช้และหน่วยงานที่รายงาน) ข้อมูลนี้อาศัยการระบุตัวตนด้วยตนเอง ณ เวลาที่รายงาน และเรายืนยันไม่ได้ว่าผู้ใช้ที่เลือก "หน่วยงานที่รายงาน" อยู่ในสังกัดหน่วยงานที่รายงานจริงหรือไม่

รายการแยกตามเหตุผลที่ร้องเรียน

จำนวนรายการที่มีการรายงานความเป็นส่วนตัวการหมิ่นประมาทหรือการดูถูกพฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็น…เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย…วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนว…ความรุนแรง010,00020,00030,00040,00050,00060,0006,51933,52925,40032,68313,58456,92924,487
Categoryจำนวนรายการที่มีการรายงาน
ความเป็นส่วนตัว6,519
การหมิ่นประมาทหรือการดูถูก33,529
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย25,400
เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ32,683
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ13,584
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง56,929
ความรุนแรง24,487

แผนภูมิด้านบนแสดงจํานวนรายการที่เราได้รับในระยะเวลาการรายงานแยกตามเหตุผลที่ร้องเรียน แผนภูมินี้แสดงให้เห็นเหตุผลในการร้องเรียนที่ผู้ส่งระบุ ณ เวลาที่รายงาน

ปริมาณการนำออก

แผนภูมิด้านล่างแสดงจำนวนรายการที่ถูกนำออกหรือถูกบล็อกหลังจากมีการร้องเรียนภายใต้ NetzDG ในระยะเวลาการรายงานนี้

รายการทั้งหมดที่นำออก
30,870
ตัวเลขด้านบนแสดงจำนวนรายการที่ถูกนำออกหรือถูกบล็อกในระยะเวลาการรายงานนี้

รายการที่นำออกแบ่งตามผู้ส่งคำขอ

รายการที่นำออกผู้ใช้หน่วยงาน02,5005,0007,50010,00012,50015,00017,50020,00022,50025,00022,8877,983
Entityรายการที่นำออก
ผู้ใช้22,887
หน่วยงาน7,983

แผนภูมิด้านบนแสดงจำนวนรายการที่ถูกนำออกหรือบล็อกในระยะเวลาการรายงานแยกตามประเภทของผู้ส่ง (ผู้ใช้และหน่วยงานที่รายงาน) ข้อมูลนี้อาศัยการระบุตัวตนด้วยตนเอง ณ เวลาที่รายงาน และเรายืนยันไม่ได้ว่าผู้ใช้ที่เลือก "หน่วยงานที่รายงาน" อยู่ในสังกัดหน่วยงานที่รายงานจริงหรือไม่

รายการที่นำออกแบ่งตามเหตุผลที่ร้องเรียน

รายการที่นำออกความเป็นส่วนตัวการหมิ่นประมาทหรือการดูถูกพฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็น…เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย…วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนว…ความรุนแรง02,0004,0006,0008,00010,00012,0003745,7904,9133,0161,77111,8123,194
Categoryรายการที่นำออก
ความเป็นส่วนตัว374
การหมิ่นประมาทหรือการดูถูก5,790
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย4,913
เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ3,016
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ1,771
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง11,812
ความรุนแรง3,194
แผนภูมิด้านบนแสดงจำนวนรายการที่ถูกนำออกหรือบล็อกในระยะเวลาการรายงานตามเหตุผลที่ร้องเรียน แผนภูมินี้แสดงให้เห็นเหตุผลของผู้ส่ง ณ เวลาที่รายงาน ซึ่งอาจไม่ตรงกับเหตุผลจริงในการนำออกหรือบล็อก

การบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชนเมื่อเทียบกับบทบัญญัติของ NetzDG

นำออกในท้องถิ่น (NetzDG)นำออกทั่วโลก (CG)ความเป็นส่วนตัวการหมิ่นประมาทหรือการดูถูกพฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็น…เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย…วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนว…ความรุนแรง02,0004,0006,0008,00010,00012,000572159511308491263175,5754,8183,0051,46311,3213,168
Categoryนำออกในท้องถิ่น (NetzDG)นำออกทั่วโลก (CG)
ความเป็นส่วนตัว57317
การหมิ่นประมาทหรือการดูถูก2155,575
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย954,818
เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ113,005
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ3081,463
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง49111,321
ความรุนแรง263,168
แผนภูมิด้านบนแสดงการเปรียบเทียบรายการที่ถูกบล็อกเฉพาะในพื้นที่เนื่องจากละเมิดการกระทำผิดทางอาญาที่ระบุไว้ใน NetzDG กับรายการที่ถูกนำออกทั่วโลกเนื่องจากละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ในบริบทนี้ รายการต่างๆ อาจละเมิดทั้งหลักเกณฑ์ของชุมชนและการกระทำผิดทางอาญาที่ระบุไว้ใน NetzDG คอลัมน์สีน้ำเงินในแผนภูมิคือรายการที่ถูกบล็อกในพื้นที่เท่านั้นเนื่องจากละเมิดการกระทำผิดทางอาญาที่ระบุไว้ใน NetzDG ส่วนคอลัมน์สีแดงคือรายการที่ถูกนำออกทั่วโลกเนื่องจากละเมิด NetzDG และหลักเกณฑ์ของชุมชน หรือละเมิดเฉพาะหลักเกณฑ์ของชุมชน
การร้องเรียนภายใต้ NetzDGรอบการรายงานปัจจุบันรอบการรายงานก่อนหน้า (6 เดือนที่ผ่านมา)รอบการรายงานก่อนหน้า (12 เดือนที่ผ่านมา)
รายการทั้งหมดที่รายงาน193,131233,440282,858
รายการที่นําออก/บล็อกทั้งหมด30,87032,15050,717
เปอร์เซ็นต์ของรายการที่นําออก/บล็อกในรายงาน15.98%13.77%17.93%

ตารางด้านบนแสดงการเปรียบเทียบจํานวนรายการทั้งหมดที่รายงานภายใต้ NetzDG, จํานวนรายการทั้งหมดที่บล็อกหรือนําออก ตลอดจนเปอร์เซ็นต์ของรายการที่รายงานซึ่งถูกบล็อกหรือนําออกในระยะเวลาการรายงานนี้และระยะเวลาการรายงานก่อนหน้านี้อีก 2 ช่วง

หน่วยงานการรายงานที่ได้รับการยืนยัน

หน่วยงานรายการที่ขอให้นำออกรายการที่นำออก
Eco00
FSM10
jugendschutz.net1812

ตารางนี้แสดงจำนวนรายการซึ่งเราได้รับจากหน่วยงานที่รายงานซึ่งเรารู้จักในขอบเขตของ NetzDG และมีหนังสือมอบอำนาจทางกฎหมายให้ประมวลผลภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (CSAI) ตามข้อตกลงร่วมกับสำนักงานตำรวจส่วนกลางคดีอาญา (BKA) และหน่วยงานรัฐบาลกลางด้านการปกป้องเด็กและเยาวชนในสื่อ (BzKJ), Eco, Freiwillige Selbstkontrolle Multimedia-Diensteanbieter e.V. และ Jugendschutz.net โดยข้อมูลในตารางแสดงผลคำตัดสินครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับรายงานนั้นๆ แต่ไม่ได้แสดงสถานะสุดท้ายของรายการที่มีการรายงานเข้ามาในช่วงระยะเวลาการรายงาน

การขอข้อมูลจากผู้ส่งคำขอและผู้อัปโหลด

NetzDG อนุญาตให้โซเชียลเน็ตเวิร์กติดต่อผู้อัปโหลดได้เมื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อความที่ระบุว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ในการขอคำตอบที่สมเหตุสมผลจากผู้อัปโหลด ผู้ส่งคำขอจะต้องมีการร้องเรียนที่มีข้อมูลอย่างละเอียดและมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าเหตุใดจึงกล่าวหาว่าข้อความที่เป็นปัญหานั้นเป็นข้อมูลเท็จ เนื่องจากการร้องเรียนทางกฎหมายภายใต้ NetzDG ส่วนใหญ่พิสูจน์ไม่ได้ (แม้ YouTube จะขอข้อมูลเพิ่มเติมไปโดยตรงแล้ว) จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอในการขอติดต่อกับผู้อัปโหลดในกรณีเหล่านี้

การโต้ตอบกับผู้อัปโหลด
0
จำนวนรายการทั้งหมดที่เราส่งต่อไปยังผู้อัปโหลดเพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานที่เป็นปัญหา
การร้องเรียนที่ไม่สมบูรณ์
5,234
จำนวนรายการทั้งหมดที่เราต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ส่ง

การขอคำปรึกษาภายนอก

กรณีตามกฎหมายอาญาบางกรณีที่ซับซ้อนต้องอาศัยความรู้ของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายโดยเฉพาะ มีสถานการณ์ต่างๆ ที่เราอาจขอคำปรึกษาจากสถาบันภายนอก เช่น ที่ปรึกษาทางกฎหมายภายนอกบริษัท หรือสถาบันแบบกำกับตนเองแห่งใดแห่งหนึ่งที่เชี่ยวชาญในเรื่องที่เกี่ยวกับ NetzDG

หน่วยงานกำกับตนเอง
12
จำนวนรายการทั้งหมดที่ส่งต่อไปยังหน่วยงานกํากับตนเอง ดูคำตัดสินของ "FSM" ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับตนเองได้ที่นี่
ที่ปรึกษาทางกฎหมายภายนอก
2
จำนวนรายการทั้งหมดที่เราขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาด้านกฎหมายภายนอกบริษัทเพื่อประกอบการตัดสินใจ

จำนวนเนื้อหาที่ระบุว่าผิดกฎหมายภายใต้ NetzDG

เราตรวจสอบการร้องเรียนภายใต้ NetzDG ทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาที่ผิดกฎหมายตาม NetzDG เพื่อตัดสินว่าเนื้อหาที่รายงานละเมิดการกระทำผิดทางอาญาใดๆ ที่ระบุไว้ใน NetzDG (มาตรา 1 (3) NetzDG) หรือไม่

รายการทั้งหมดที่ผิดกฎหมายภายใต้ NetzDG
7,000

ตัวเลขด้านบนแสดงจำนวนรายการที่ถูกนำออกหรือถูกบล็อกระหว่างระยะเวลาการรายงานนี้ ซึ่งเราจัดประเภทว่าผิดกฎหมายภายใต้การกระทำผิดทางอาญาข้อใดข้อหนึ่งที่ระบุไว้ใน NetzDG

เวลาในการดำเนินการสำหรับเนื้อหาที่ระบุว่าผิดกฎหมายภายใต้ NetzDG

แผนภูมิในส่วนนี้แสดงจำนวนรายการทั้งหมดที่เรานำออกหรือถูกบล็อก และได้รับการระบุว่าผิดกฎหมายภายใต้การกระทำผิดทางอาญาข้อใดข้อหนึ่งที่ระบุไว้ใน NetzDG ระหว่างระยะเวลาการรายงานตามเวลาในการดำเนินการ เวลาในการดำเนินการคือระยะเวลาที่ผ่านไปนับจากเวลาที่ได้รับการร้องเรียนจนถึงเวลาที่นำออกหรือบล็อกรายการที่รายงาน

เวลาในการดำเนินการแยกตามผู้ส่งคำขอ

หน่วยงานผู้ใช้น้อยกว่า 24 ชม.น้อยกว่า 48 ชม.น้อยกว่า 1 สัปดาห์นานกว่า05001,0001,5002,0002,5003,0003,5004,0004,5002,0251576454,15934221830
Timeหน่วยงานผู้ใช้
น้อยกว่า 24 ชม.2,0254,159
น้อยกว่า 48 ชม.157342
น้อยกว่า 1 สัปดาห์64218
นานกว่า530

แผนภูมิด้านบนจะแตกต่างจากรายงานก่อนหน้า โดยจะแสดงเฉพาะเวลาในการดําเนินการสําหรับรายการที่ถูกนําออกหรือบล็อก ซึ่งได้รับการพิจารณาว่าผิดกฎหมายภายใต้การกระทำผิดทางอาญาอย่างใดอย่างหนึ่งที่ระบุใน NetzDG ในระยะเวลาการรายงาน โดยแยกตามประเภทของผู้ส่งคำร้องเรียน (หน่วยงานและผู้ใช้ที่รายงาน) หากต้องการดูเวลาในการดำเนินการสําหรับรายการทั้งหมดที่ถูกนําออกหรือบล็อกของระยะเวลาการรายงานก่อนหน้า ให้เลือกระยะเวลาการรายงานจากเมนูแบบเลื่อนลงซึ่งอยู่ใต้แผนภูมิ หมายเหตุ: ข้อมูลนี้อาศัยการระบุตัวตนด้วยตนเอง ณ เวลาที่รายงาน และเรายืนยันไม่ได้ว่าผู้ใช้ที่เลือก "หน่วยงานที่รายงาน" อยู่ในสังกัดหน่วยงานที่รายงานจริงหรือไม่ กรณีต่างๆ อาจใช้เวลาเกิน 7 วันอันเนื่องมาจากปัญหาทางเทคนิค กรณีซับซ้อนที่เราต้องขอคำปรึกษาทางกฎหมายภายนอกบริษัท หรือเป็นภาษาที่พบไม่บ่อย

เวลาในการดำเนินการแยกตามเหตุผลที่ร้องเรียน

น้อยกว่า 24 ชม.น้อยกว่า 48 ชม.น้อยกว่า 1 สัปดาห์นานกว่าความเป็นส่วนตัวการหมิ่นประมาทหรือการดูถูกพฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็น…เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย…วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนว…ความรุนแรง05001,0001,5002,0002,5003,000
เหตุผลน้อยกว่า 24 ชม.น้อยกว่า 48 ชม.น้อยกว่า 1 สัปดาห์นานกว่า
ความเป็นส่วนตัว883192
การหมิ่นประมาทหรือการดูถูก2,2401495230
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย18036300
เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ154950
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ59043310
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง2,5512351293
ความรุนแรง38124160
เหตุผลน้อยกว่า 24 ชม.น้อยกว่า 48 ชม.น้อยกว่า 1 สัปดาห์นานกว่า
ความเป็นส่วนตัว883192
การหมิ่นประมาทหรือการดูถูก2,2401495230
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย18036300
เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ154950
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ59043310
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง2,5512351293
ความรุนแรง38124160

แผนภูมิด้านบนแสดงเวลาในการดำเนินการสำหรับรายการที่ถูกนำออกหรือถูกบล็อก และเราระบุว่าผิดกฎหมายภายใต้การกระทำผิดทางอาญาข้อใดข้อหนึ่งที่ระบุไว้ใน NetzDG ในระยะเวลาการรายงานตามเหตุผลที่ร้องเรียน แผนภูมิเหล่านี้แสดงให้เห็นเหตุผลที่ผู้ส่งระบุ ณ เวลาที่รายงาน ซึ่งอาจไม่ตรงกับเหตุผลจริงในการนำออกหรือบล็อก

เปอร์เซ็นต์ของรายการที่ถูกนำออกหรือถูกบล็อกภายใน 24 ชั่วโมงนับจากมีการร้องเรียนภายใต้ NetzDG และระบุว่าผิดกฎหมายภายใต้ NetzDG

การเปิดเผยข้อมูลสำหรับการวิจัย

0
ตัวเลขด้านบนแสดงจำนวนครั้งที่ YouTube เปิดเผยข้อมูลตามมาตรา 5a NetzDG ต่อนักวิจัย

คำขอข้อมูลผู้ใช้

หน่วยงานรัฐบาล ศาล และฝ่ายต่างๆ ในการฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีแพ่งมักขอให้บริษัทด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารส่งข้อมูลผู้ใช้ให้เป็นประจำ ในรายงานนี้ เราได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและประเภทของคำขอที่ได้รับจากรัฐบาล

กลไก การแจ้งเตือน วิธีการรายงาน และการประเมิน

YouTube ต้องการที่จะสร้างสมดุลและรักษาไว้ซึ่ง "เสรีภาพ 4 ประการ" ซึ่งได้แก่ เสรีภาพแห่งการแสดงออก เสรีภาพแห่งข้อมูล เสรีภาพแห่งโอกาส และเสรีภาพแห่งการร่วมเป็นส่วนหนึ่ง การบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชนและ/หรือกฎหมายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสมดุลของเสรีภาพเหล่านี้และรักษาไว้ซึ่งชุมชน YouTube การดูแลให้เกิดความสมดุลนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในแพลตฟอร์มสากลที่ใช้กันในหลากหลายสังคมซึ่งมีระดับเสรีภาพในการพูดแตกต่างกัน

กลไกของการส่งการร้องเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมายตามที่ระบุใน NetzDG

สำหรับผู้ใช้ในเยอรมนี YouTube มีขั้นตอนการรายงานที่ง่ายต่อการจดจำ เข้าถึงได้โดยตรงและพร้อมให้ร้องเรียนภายใต้ NetzDG ภายในผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนสำหรับผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าสู่ระบบเพื่อส่งการร้องเรียนทางกฎหมายภายใต้ NetzDG ผสานรวมอยู่ในขั้นตอนการแจ้งว่าไม่เหมาะสม ซึ่งเข้าถึงได้ที่ใต้วิดีโอและข้างความคิดเห็นแต่ละรายการ (จุด 3 จุด) ผู้ส่งเพียงต้องคลิกช่องทำเครื่องหมาย "ฉันเชื่อว่าควรจำกัดเนื้อหานี้ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมายในโซเชียลเน็ตเวิร์ก" ในขั้นตอนการแจ้งว่าไม่เหมาะสมและเว็บฟอร์มทางกฎหมายสั้นๆ จะเปิดขึ้นมาเพื่อให้ผู้ส่งใส่รายละเอียดเพิ่มเติม

YouTube ยังมีเว็บฟอร์มทางกฎหมายสำหรับ NetzDG ที่พร้อมให้บริการโดยตรงแก่ผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าสู่ระบบและออกจากระบบแล้วผ่านลิงก์การร้องเรียนภายใต้ NetzDG ในเมนูหลักของ YouTube และผ่านหน้าติดต่อใน YouTube (หน้าติดต่อพร้อมให้บริการสำหรับผู้ใช้ทุกคนในเยอรมนี)

ผู้ใช้ทั่วไปซึ่งไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมีแนวโน้มที่จะรู้สึกหนักใจเมื่อได้เห็นรายการความผิดที่มีความซับซ้อนทั้งหมด หรือแม้กระทั่งรู้สึกถึงความยุ่งยากในการรายงานจนทำให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะรายงานไปในที่สุด ผู้ใช้ทั่วไปดังกล่าวมักไม่เข้าใจและไม่อ้างอิงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของ StGB เมื่อส่งการร้องเรียนทางกฎหมายภายใต้ NetzDG ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อหาที่แจ้งบางรายการอาจมีการกระทำผิดตามรายการที่แสดงไว้มากกว่า 1 ข้อ ตัวอย่างเช่น วิดีโอรายการหนึ่งที่พยายามจะรับสมัครสมาชิกใหม่หรือผู้สนับสนุนรายใหม่ให้กับองค์กรอาชญากรรมหรือการก่อการร้าย (มาตรา 129, 129a StGB) มักใช้สัญลักษณ์อย่างเช่นธง ซึ่งเป็นการกระทำที่มีโทษภายใต้มาตรา 86, 86a StGB และการกระทำเดียวกันนี้ยังอาจถือว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับการเตรียมการเพื่อกระทำอาชญากรรมร้ายแรงซึ่งเป็นอันตรายต่อรัฐภายใต้มาตรา 89a StGB การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากรัฐบัญญัติต่อต้านลัทธิหัวรุนแรงฝ่ายขวาและอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังนั้นตอกย้ำข้อกังวลดังกล่าวที่มีการเน้นย้ำในรายงานฉบับก่อนหน้าให้มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น "การคุกคาม" ตามความหมายที่มาตรา 241 ของประมวลกฎหมายอาญาระบุไว้สามารถทำ "ผ่านบุคคลที่สาม" ได้ในกรณีที่ผู้กระทำผิดมีเจตนาให้เปิดเผยการคุกคามต่อผู้รับ การกระทำผิดทางอาญาฐานข่มขู่ (มาตรา 126 StGB) และคุกคาม (มาตรา 241 StGB) จึงขาดความแน่นอนและการมีผลอย่างเจาะจง โดยเฉพาะเมื่อเนื้อหาแต่ละรายการเผยแพร่อยู่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก

ดังนั้น เพื่อช่วยให้ขั้นตอนการร้องเรียนง่ายขึ้นและช่วยผู้ส่งในการรายงานเนื้อหาที่เชื่อว่าอาจผิดกฎหมายภายใต้ NetzDG เราจึงกำหนดหมวดหมู่เนื้อหาขึ้นมา 7 หมวดในขั้นตอนการรายงานภายใต้ NetzDG ที่สอดคล้องกับและสะท้อนให้เห็นถึงการกระทำผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้อง 22 ข้อ ซึ่งเป็นการจัดหมวดหมู่การกระทำผิดทางอาญาให้บุคคลทั่วไปเข้าใจง่าย วิธีการนี้ยังช่วยให้การกระทำผิดซึ่งมีลักษณะเป็นนามธรรมอย่างมากและมีขอบเขตที่กว้างนั้นมีความชัดเจนมากขึ้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย) ตัวอย่างเช่น มาตรา 140 StGB มีบทลงโทษการให้รางวัลหรือการเห็นดีด้วยกับการกระทำผิดที่หลากหลายตั้งแต่การกบฏ ฆาตกรรม และอาชญากรรมร้ายแรงอื่นๆ เช่น อาชญากรรมสงคราม การทำอันตรายต่อร่างกาย (เป็นอย่างน้อย) ไปจนถึงอาชญากรรมที่เป็นอันตรายต่อสาธารณะ รวมถึงอาชญากรรมทางเพศที่ร้ายแรงบางอย่าง ฯลฯ จากประสบการณ์ของเราเกี่ยวกับขั้นตอนการแจ้งเตือนเนื้อหา พบว่าผู้ใช้ชื่นชอบวิธีการที่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงและมีข้อจำกัดน้อยเพื่อส่งการร้องเรียนเนื้อหาที่ผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิผล ด้วยเหตุนี้จึงมีการเพิ่มเนื้อหาลงในบัญชีรายการมาตรา 126 ของประมวลกฎหมายอาญาซึ่งมาตรา 140 ของประมวลเดียวกันอ้างถึง นอกจากนี้ สำหรับทางเลือกของการอนุมัติในมาตรา 140 ของประมวลกฎหมายอาญา ตอนนี้จะไม่พิจารณาอีกต่อไปว่าการกระทำดังกล่าวได้เกิดขึ้นหรืออย่างน้อยมีการพยายามให้เกิดขึ้นในลักษณะที่มีโทษหรือไม่ เทคนิคในการอ้างถึงบัญชีรายการการกระทำผิดและการตรวจสอบการกระทำผิดซึ่งมีอยู่ทำให้บุคคลทั่วไปที่ไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสับสนยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากกล่าวถึงการคุกคามในลักษณะที่เน้นอนาคต วิธีการที่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงและมีข้อจำกัดน้อยซึ่งใช้มาโดยตลอดนั้นน่าจะทำให้ผู้คนคำนึงถึงเป้าหมายของ NetzDG อย่างดีที่สุดต่อไป

หมวดหมู่เหล่านี้ (และการกระทำผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้องและอ้างถึงในมาตรา 1 (3) NetzDG ซึ่งเราคาดว่าหมวดหมู่ดังกล่าวจะครอบคลุมถึงและผู้ใช้สามารถรายงานได้โดยการเลือกหมวดหมู่เหล่านี้) ได้แก่

วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง

  • § 130 StGB: การยุยงให้เกิดความเกลียดชัง
  • § 166 StGB: การหมิ่นประมาทเกี่ยวกับศาสนา สมาคมทางด้านศาสนาและอุดมการณ์

เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ

  • § 86 StGB: การเผยแพร่เนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อขององค์กรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
  • § 86a StGB: การใช้สัญลักษณ์ขององค์กรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
  • มาตรา 89a StGB: การเตรียมการเพื่อกระทำความผิดอาญาร้ายแรงซึ่งเป็นอันตรายต่อรัฐ
  • มาตรา 91 StGB: การสนับสนุนการกระทำความผิดอาญาร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อรัฐ
  • § 100a StGB: การปลอมแปลงที่เป็นการกบฏ (Treasonous forgery)
  • มาตรา 129 StGB: การก่อตั้งองค์กรอาชญากรรม
  • § 129a StGB: การก่อตั้งองค์กรก่อการร้าย
  • § 129b StGB: องค์กรอาชญากรรมและองค์กรก่อการร้ายในต่างประเทศ การริบทรัพย์สินเพิ่มเติมและการเพิกถอนสิทธิ์
  • มาตรา 140 StGB ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 138 (1) StGB: การให้รางวัลและการเห็นดีด้วยกับการกระทําความผิดบางอย่างที่แสดงไว้ในมาตรา 138 (1) StGB
  • § 269 StGB: การปลอมแปลงข้อมูลเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ความรุนแรง

  • § 131 StGB: การเผยแพร่การบรรยายให้เห็นภาพความรุนแรง

พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย

  • § 111 StGB: การยุยงสาธารณชนให้กระทำความผิดทางอาญา
  • § 126 StGB: การละเมิดสันติภาพสาธารณะโดยการข่มขู่ว่าจะกระทำความผิด
  • มาตรา 140 StGB ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 126 (1) StGB: การให้รางวัลและการเห็นดีด้วยกับการกระทําความผิดที่แสดงไว้ในมาตรา 126 (1) StGB
  • § 241 StGB: การข่มขู่ว่าจะก่ออาชญากรรม

การหมิ่นประมาทหรือการดูถูก

  • § 185 StGB: การดูถูก
  • § 186 StGB: การหมิ่นประมาท
  • § 187 StGB: การหมิ่นประมาทโดยเจตนา

ความเป็นส่วนตัว

  • § 201a StGB: การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลด้วยการถ่ายหรือเผยแพร่ภาพ

เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ

  • มาตรา 184b StGB: การเผยแพร่ การจัดหา และการครอบครองสื่อลามกเกี่ยวกับเด็ก
  • § 140 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ §§ 176 ถึง 178: การให้รางวัลสำหรับและการเห็นดีด้วยกับการกระทำความผิดบางอย่างที่แสดงไว้ใน §§ 176 ถึง 178

จากประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานทั่วโลกเกี่ยวกับการแจ้งเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เราเชื่อว่าหมวดหมู่เหล่านี้จะช่วยสนับสนุนและทำให้ NetzDG บรรลุจุดมุ่งหมายทางกฎหมายโดยรวมได้เป็นอย่างดี

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

มาตรการแจ้งให้ผู้ส่งและผู้อัปโหลดทราบ

เมื่อเราได้รับการร้องเรียนภายใต้ NetzDG ผ่านกระบวนการรายงานที่อธิบายไว้ด้านบน ผู้ส่งจะได้รับอีเมลยืนยันพร้อมหมายเลขอ้างอิงที่ระบุว่าเราได้รับการร้องเรียนแล้วและจะตรวจสอบการร้องเรียนดังกล่าว

หลังจากตรวจสอบการร้องเรียนภายใต้ NetzDG แล้ว เราจะส่งอีเมลที่มีข้อมูลเกี่ยวกับคำตัดสินของเราภายใต้ NetzDG ตลอดจนเหตุผลของคำตัดสินไปให้ผู้ส่ง อีเมลแจ้งนี้ยังมีข้อมูลว่าผู้ส่งสามารถยื่นคำร้องเรียนทางอาญาต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ ซึ่งเป็นหน้าความช่วยเหลือของกระทรวงยุติธรรมและการคุ้มครองผู้บริโภคแห่งรัฐบาลกลาง (Federal Ministry of Justice and Consumer Protection) ที่ hilfe-info.de หาก YouTube ไม่ได้ปฏิบัติตามการร้องเรียนภายใต้ NetzDG เกี่ยวกับวิดีโอ อีเมลแจ้งดังกล่าวจะมีลิงก์ซึ่งผู้ส่งใช้ยื่นคำขอให้พิจารณาคำตัดสินภายใต้ NetzDG อีกครั้งได้ด้วย

หากเราบล็อกเนื้อหาเนื่องจากละเมิดการกระทำความผิดข้อใดข้อหนึ่งที่ระบุไว้ใน NetzDG เพื่อตอบสนองต่อการร้องเรียนภายใต้ NetzDG เราจะส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลให้กับผู้อัปโหลดพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับการบล็อก หากวิดีโอถูกบล็อก การแจ้งเตือนนี้จะมีลิงก์ซึ่งผู้อัปโหลดใช้ส่งคำขอให้พิจารณาคำตัดสินภายใต้ NetzDG อีกครั้งได้ด้วย หากวิดีโอถูกนำออกเนื่องจากละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ผู้อัปโหลดจะได้รับการแจ้งเตือนที่มีลิงก์สำหรับส่งคำขอให้ตรวจสอบคำตัดสินตามหลักเกณฑ์ของชุมชน

เมื่อวิดีโอถูกนำออกตามหลักเกณฑ์ของชุมชนหรือถูกบล็อกเนื่องจากกฎหมายท้องถิ่น เราจะแสดงประกาศสาธารณะแทนที่วิดีโอดังกล่าวเพื่อแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าวิดีโอนั้นไม่พร้อมใช้งานอีกต่อไป

วิธีการรายงานอื่นๆ

การร้องเรียนทางกฎหมาย ตามที่ระบุไว้ด้านบน เราได้สร้างเครื่องมือการรายงานเพิ่มเติมสำหรับบุคคลทั่วไปเพื่อรายงานเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดบทบัญญัติของ NetzDG (การร้องเรียนภายใต้ NetzDG) ซึ่งได้แก่ เว็บฟอร์มที่พร้อมให้ทุกคนใช้งานโดยตรงผ่านทางลิงก์การร้องเรียนภายใต้ NetzDG ในเมนูหลักของ YouTube หรือผ่านหน้าติดต่อใน YouTube หรือหากเป็นผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้ ก็จะคลิกช่องทำเครื่องหมาย NetzDG ได้ ซึ่งช่องนี้รวมอยู่ในขั้นตอนการแจ้งว่าไม่เหมาะสมที่ใช้ภาษาเยอรมันตามที่อธิบายด้านบน ช่องทางการรายงานเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ระบุเนื้อหาที่อาจก่อให้เกิดปัญหาและให้เหตุผลสำหรับการร้องเรียนทางกฎหมายได้ เราจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนี้เพื่อทำการตรวจสอบให้ถูกต้องและดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป หากมีเหตุผลที่ระบุไม่ชัดเจนหรือการให้เหตุผลว่าชอบด้วยกฎหมายไม่เพียงพอสำหรับการนำเนื้อหาออกตามกฎหมายท้องถิ่น เราอาจขอให้ผู้ร้องเรียนส่งข้อมูลเพิ่มเติม

การจัดเตรียมขั้นตอนการรายงานที่ง่ายต่อการใช้งานและเข้าถึงง่ายไว้ใกล้ๆ กับเนื้อหาทำให้มีจำนวนการคลิกและการร้องเรียนสูง แต่บางครั้งการรายงานจากผู้ใช้ก็เชื่อถือไม่ได้ การร้องเรียนจำนวนมากไม่ตรงประเด็นหรือพิสูจน์ไม่ได้ซึ่งทำให้เราดำเนินการกับเนื้อหาไม่ได้ ผู้ใช้บางคนส่งการร้องเรียนโดยไม่ให้เหตุผลที่ทำให้คิดว่าเนื้อหาผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นปัญหามากเมื่อเนื้อหาไม่ได้ผิดกฎหมายอย่างเห็นได้ชัด

นอกเหนือจากกลไกในการยื่นการร้องเรียนภายใต้ NetzDG เรายังมีเว็บฟอร์มทางกฎหมายเพื่อให้บริการผู้ใช้ YouTube (เช่น สำหรับการร้องเรียนเกี่ยวกับสิทธิส่วนบุคคล การร้องเรียนเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ การร้องเรียนเครื่องหมายการค้า) มาเป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะมี NetzDG ขั้นตอนการนำเนื้อหาออกตามกฎหมายจึงไม่ได้เริ่มใช้ผ่าน NetzDG แต่เป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างกลไกการรายงานที่มีอยู่แล้วคือ การรายงานปัญหาการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนตามที่กล่าวหา และการร้องเรียนทางกฎหมายสำหรับเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมายให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเท่านั้น

การแจ้งว่าไม่เหมาะสมจากบุคคล เรามีระบบการแจ้งว่าไม่เหมาะสมที่ให้ผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าสู่ระบบแจ้งให้เราทราบเกี่ยวกับเนื้อหาที่อาจละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ระบบการแจ้งว่าไม่เหมาะสมนี้เข้าถึงได้จากข้างใต้วิดีโอแต่ละรายการและข้างๆ ความคิดเห็นแต่ละรายการ ผู้ใช้จะเลือกจากหมวดหมู่เนื้อหาต่างๆ เพื่อเลือกเหตุผลที่รายงานเนื้อหาได้ หากไม่ได้เลือกช่องทำเครื่องหมาย NetzDG ไว้ การแจ้งว่าไม่เหมาะสมเหล่านี้จะได้รับการประเมินโดยอิงตามหลักเกณฑ์ของชุมชนของเราเท่านั้น ระบบนี้เป็นแบบกํากับตนเองโดยความสมัครใจที่มีขึ้นโดยไม่เกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ตามกฎหมายใดๆ และเรายังได้พัฒนาโปรแกรมชื่อ "ผู้รายงานปัญหาที่น่าเชื่อถือ" ขึ้นมาด้วย เพื่อให้องค์กรต่างๆ ที่คอยแจ้งเราเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนโดยเฉพาะได้มีกระบวนการและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับใช้ในการรายงานเนื้อหาจำนวนมาก การแจ้งว่าไม่เหมาะสมจากผู้รายงานปัญหาที่น่าเชื่อถือจะได้รับการประเมินโดยอิงตามหลักเกณฑ์ของชุมชนของเราเท่านั้น ผู้รายงานปัญหาที่น่าเชื่อถือเป็น NGO และหน่วยงานรัฐบาลที่โดยปกติแล้วจะมีอัตราความแม่นยำสูง และมีความเชี่ยวชาญในโดเมนที่ทำให้การรายงานปัญหาโดยองค์กรเป็นข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับระบบโดยรวม ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมผู้รายงานปัญหาที่น่าเชื่อถือได้ในรายงานการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube

การจับคู่เนื้อหาที่ตรงกันโดยอัตโนมัติด้วยคอมพิวเตอร์ ระบบการบังคับใช้ของ YouTube เริ่มจากจุดที่ผู้ใช้อัปโหลดวิดีโอ YouTube ใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันการอัปโหลดเนื้อหาที่เป็นการละเมิดซ้ำ ซึ่งรวมถึงผ่านการใช้แฮช (หรือ "ลายนิ้วมือดิจิทัล") แฮชคือลายนิ้วมือดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกันของรูปภาพและวิดีโอ ซึ่งช่วยให้เราป้องกันการอัปโหลดเนื้อหาซ้ำของวิดีโอที่เหมือนกันทุกประการกับวิดีโอที่ถูกนำออกไปแล้วเนื่องจากละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน สำหรับเนื้อหาบางอย่าง เช่น ภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (CSAI) และวิดีโอการสรรหาสมาชิกใหม่ของผู้ก่อการร้าย YouTube จะใช้ฐานข้อมูลแฮชที่ใช้ร่วมกันในอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มปริมาณเนื้อหาที่ระบบของเราจะตรวจจับได้ตั้งแต่ตอนที่อัปโหลด

การแจ้งว่าไม่เหมาะสมโดยอัตโนมัติด้วยคอมพิวเตอร์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2017 เราเริ่มใช้เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงในการรายงานเนื้อหาเกี่ยวกับลัทธิหัวรุนแรงเพื่อส่งต่อไปที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ YouTube ใช้คลังข้อมูลวิดีโอที่มีเนื้อหาของลัทธิหัวรุนแรง ซึ่งผ่านการตรวจสอบและถูกนำออกแล้ว เพื่อฝึกเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงให้รายงานเนื้อหาใหม่ที่อาจละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนเช่นกัน การใช้เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงที่ฝึกด้วยการตัดสินใจของมนุษย์หมายความว่าระบบการบังคับใช้จะปรับเปลี่ยนและชาญฉลาดยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากเห็นผลลัพธ์ในทางที่ดี เราจึงเริ่มฝึกเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงในเนื้อหาที่ท้าทายด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งรวมถึงความปลอดภัยของเด็กและวาจาสร้างความเกลียดชัง แต่เราพบว่าระบบเหล่านี้จะมีประสิทธิผลมากที่สุดเมื่อมีการกำหนดเป้าหมายที่เป็นการละเมิดอย่างชัดเจนในทุกบริบท และระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติจะมาแทนที่การตัดสินใจและความละเอียดของมนุษย์ไม่ได้ง่ายนัก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในรายงานการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube

ขั้นตอนการประเมิน

การแจ้งการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน หลักเกณฑ์ของชุมชนที่ใช้งานได้ทั่วโลกของ YouTube นั้นมีความชัดเจน ดูกฎระดับสูงได้ที่นี่ หลักเกณฑ์เหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจาก YouTube เติบโตขึ้นและพฤติกรรมของผู้ใช้เปลี่ยนไป ผู้ใช้ต้องยินยอมที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ก่อนเปิดช่อง YouTube

เราตรวจสอบรายการที่แจ้งว่าไม่เหมาะสม (ตามที่ระบุด้านบน) ตามหลักเกณฑ์ทั้งหมดของชุมชน แต่หลักเกณฑ์ดังกล่าวไม่อนุญาตภาพเปลือยหรือเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ เนื้อหาเกี่ยวกับพฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย เนื้อหาแสดงความเกลียดชัง เนื้อหาที่รุนแรงหรือสยดสยอง การล่วงละเมิดหรือการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ การข่มขู่ และการทำอันตรายต่อเด็ก และอื่นๆ

YouTube ดูแลให้มีการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชนให้สอดคล้องกันโดยใช้ชุดหลักเกณฑ์การตีความซึ่งละเอียดยิ่งขึ้นและมีผลอยู่ในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น หลักเกณฑ์ของชุมชนไม่อนุญาตเนื้อหาที่ส่งเสริมการก่อการร้าย หากกลุ่มผู้ก่อการร้ายสร้างสาขาใหม่ขึ้นมา อาจมีการอัปเดตหลักเกณฑ์การบังคับใช้ภายในให้มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มดังกล่าว เพื่อให้ผู้ตรวจสอบมีคำแนะนำที่จำเป็นในการนำเนื้อหาที่ส่งเสริมกลุ่มดังกล่าวออก YouTube มักจะไม่เปิดเผยการอัปเดตเหล่านี้สู่สาธารณะเพราะการทำเช่นนั้นจะเปิดช่องให้ผู้ใช้ที่ไม่หวังดีเหล่านี้หลบเลี่ยงการตรวจพบได้ง่ายขึ้น

ทีมตรวจสอบจะดูบริบทโดยรอบระหว่างการตรวจสอบเนื้อหาที่รายงานได้ซึ่งรวมถึงคำอธิบายวิดีโอ เนื้อหาอื่นๆ ที่อัปโหลดไปยังช่อง และข้อมูลเมตา (ชื่อ แท็ก หรือคำบรรยายแทนเสียง) เบาะแสทางบริบทเหล่านี้สำคัญต่อการประเมินเจตนาของการอัปโหลด นอกจากนี้ เครื่องมือตรวจสอบของเรายังบันทึกการประทับเวลาที่มีการรายงานวิดีโอและแบบฟอร์มในเว็บจะขอให้ผู้ส่งคำขอใส่การประทับเวลา เพื่อให้ผู้ตรวจสอบโฟกัสช่วงเวลาที่อาจเป็นปัญหาภายในวิดีโอ

เราได้กำหนดข้อยกเว้นไว้ในหลักเกณฑ์ของชุมชนสำหรับเนื้อหาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา สารคดี วิทยาศาสตร์ และ/หรือศิลปะ (EDSA) วิดีโอและความคิดเห็นที่เข้าข่ายข้อยกเว้นเหล่านี้สำคัญต่อการทำความเข้าใจโลกและประวัติศาสตร์ตามลำดับเวลา แม้ว่าจะบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามและการปฏิวัติ หรือการแสดงออกทางศิลปะที่อาจรวมถึงภาพเปลือย ด้วยเหตุนี้ หลักเกณฑ์การบังคับใช้ของ YouTube จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ผู้ตรวจสอบเข้าใจข้อยกเว้นของ EDSA เมื่อตรวจสอบวิดีโอที่มีการรายงานว่าไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม แม้จะมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน แต่การตัดสินว่าวิดีโอและความคิดเห็นรายการใดเข้าข่ายข้อยกเว้นของ EDSA ก็ยังเป็นการตัดสินใจบังคับใช้นโยบายที่ยากสำหรับผู้ตรวจสอบของ YouTube อยู่ดี

โดยทั่วไป ทีมตรวจสอบของเราจะนำเนื้อหาออกจากระบบของเราทั่วโลกหากละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ทางทีมอาจใช้ทางเลือกในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ด้วย

  • จำกัดอายุผู้ชม วิดีโอบางรายการไม่ได้ละเมิดนโยบายของเราและไม่ผิดกฎหมายแต่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย ในกรณีเหล่านี้ ทีมตรวจสอบอาจจำกัดอายุผู้ชมวิดีโอเมื่อได้รับแจ้งเกี่ยวกับเนื้อหา ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีที่ออกจากระบบหรือเปิดใช้โหมดที่จำกัดอยู่จะมองไม่เห็นวิดีโอที่จำกัดอายุ เมื่อตัดสินใจจำกัดอายุผู้ชม เราจะแจ้งให้ผู้อัปโหลดทราบทางอีเมลว่ามีการจำกัดอายุผู้ชมวิดีโอและผู้อัปโหลดจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • ฟีเจอร์ที่จำกัด หากทีมตรวจสอบตัดสินว่าวิดีโอคาบเส้นการละเมิดนโยบาย อาจมีการปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่าง วิดีโอเหล่านี้จะยังคงอยู่ใน YouTube แต่จะมีข้อความเตือนปรากฏขึ้นและจะมีการปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น การแชร์ การแสดงความคิดเห็น วิดีโอแนะนำ และการชอบ และจะสร้างรายได้จากวิดีโอเหล่านี้ไม่ได้ด้วย เมื่อตัดสินใจจำกัดฟีเจอร์ เราจะแจ้งให้ผู้อัปโหลดทราบทางอีเมลว่ามีการจำกัดฟีเจอร์วิดีโอและผู้อัปโหลดจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • ล็อกไว้เป็นวิดีโอส่วนตัว หากเราระบุว่าวิดีโอละเมิดนโยบายของเราเกี่ยวกับข้อมูลเมตาที่ทำให้เข้าใจผิด เราอาจล็อกเนื้อหาให้เป็นวิดีโอส่วนตัว และวิดีโอจะไม่ปรากฏต่อสาธารณะ หากผู้ดูมีลิงก์ไปยังวิดีโอ วิดีโอดังกล่าวจะปรากฏเป็นไม่พร้อมใช้งาน เมื่อตัดสินใจล็อกเป็นวิดีโอส่วนตัว เราจะแจ้งให้ผู้อัปโหลดทราบทางอีเมลว่าวิดีโอไม่ได้เผยแพร่แบบสาธารณะอีกต่อไปและผู้อัปโหลดจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ในกรณีที่มีการละเมิดซ้ำหรือการละเมิดมีความรุนแรงมากขึ้น เราอาจลงโทษผู้ใช้ด้วยการปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่างหรือสิ้นสุดบัญชีของผู้ใช้ ในกรณีส่วนใหญ่ การละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนครั้งแรกจะส่งผลให้มีการออกประกาศเตือน เรามีกฎทั่วไปในการออกประกาศเตือน 3 ครั้ง การละเมิดนโยบายครบ 3 ครั้งจะนำไปสู่การสิ้นสุดบัญชี แต่เราอาจสิ้นสุดบัญชีตั้งแต่การละเมิดครั้งแรกสำหรับการละเมิดที่รุนแรงมาก เช่น การก่อการร้าย

การร้องเรียนทางกฎหมาย เมื่อเราได้รับคำขอทางกฎหมาย ทีมตรวจสอบจะดำเนินการตรวจสอบทางกฎหมายโดยอิงตามข้อมูลที่ระบุในคำขอ ซึ่งรวมถึงการคัดค้านจากผู้ส่งคำขอ นอกจากนี้ ทีมตรวจสอบจะดูบริบทโดยรอบของเนื้อหาที่รายงานด้วย (เช่น ข้อมูลเมตา ชื่อ) ในกรณีที่ไม่ได้ระบุข้อมูลสำคัญในคำขอ เช่น ตัวตนของบุคคลที่กล่าวถึงในการร้องเรียนการหมิ่นประมาท ทีมจะติดต่อกลับผู้ส่งคำขอเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับการประเมินทางกฎหมาย หากเราพบว่าเนื้อหาผิดกฎหมาย เราจะบล็อกเนื้อหาดังกล่าวในพื้นที่

การร้องเรียนภายใต้ NetzDG ตามขั้นตอนการตรวจสอบ เมื่อเราได้รับคำขอภายใต้ NetzDG ทีมตรวจสอบซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเกี่ยวกับ NetzDG (ดูส่วน "ทีมตรวจสอบ") ซึ่งเห็นบริบทโดยรอบของเนื้อหาที่รายงานจะทำการประเมินเนื้อหานั้นตามการกระทำผิดทางอาญาที่ระบุไว้ใน NetzDG หากเนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนอย่างชัดเจน ทีมตรวจสอบด้าน NetzDG จะนำเนื้อหาดังกล่าวออกทั่วโลก โดยเราสามารถใช้คำตัดสิน 2 รายการกับเนื้อหาที่รายงานภายใต้ NetzDG ซึ่งหากวิดีโอเพียงแค่ละเมิดหลักเกณฑ์ของเราหรือละเมิดกฎหมายอื่นๆ ของเยอรมนีด้วย เราก็จะนำวิดีโอออกจากระบบทั่วโลก หากวิดีโอไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์ แต่เราพิจารณาว่าวิดีโอละเมิดกฎหมายตามมาตรา 1 (3) NetzDG หรือมาตรฐานทางกฎหมายอื่นๆ ของท้องถิ่น ก็จะทำการบล็อกวิดีโอดังกล่าวในพื้นที่

การประเมินการร้องเรียนมักจะทำได้ยาก การกระทำผิดทางอาญาบางอย่างยากที่จะอธิบายได้ แม้กระทั่งสำหรับทนายความ เช่น การปลอมแปลงข้อมูลเพื่อใช้เป็นหลักฐาน (มาตรา 269 StGB) อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ ความผิดทั้งหมดในหมวดหมู่การหมิ่นประมาทและการดูถูกซึ่งเป็นความผิดที่มีกฎหมายที่อิงคำพิพากษาอยู่มากมายและครอบคลุมตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาตั้งแต่เมื่อรัฐธรรมนูญเยอรมนีมีผลบังคับใช้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อเป็นเรื่องการหมิ่นประมาทและการดูถูก จะมีกรณีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน บางครั้งศาลใช้เวลาพิจารณาความถูกต้องตามกฎหมายของเนื้อหาชิ้นหนึ่งเป็นเวลาหลายปีแต่ก็ยังได้ข้อสรุปที่ไม่เหมือนกัน เช่น ศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐได้กลับคำตัดสินของศาลฎีกาแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นหลายต่อหลายครั้งว่าต้องมีการทดสอบสมดุลที่ซับซ้อน และความถูกต้องตามกฎหมายจะเป็นไปตามสถานการณ์เสมอ โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละกรณี บางครั้งโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ไม่มีข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนเหมือนในกระบวนการพิจารณาคดี อีกทั้งไม่มีการพิจารณาคดีหลักที่กำหนดให้ใช้ข้อบังคับเกี่ยวกับหลักฐาน ในกรณีเหล่านี้จึงยากมากในการตัดสินว่าจะยอมรับเนื้อหาได้หรือไม่เมื่อวัดด้วยองค์ประกอบเฉพาะของความผิด และโดยทั่วไปควรให้ศาลที่รับผิดชอบเป็นผู้ตัดสินใจ

เราใช้ธรรมเนียมปฏิบัติจริงมาร่วมในการพิจารณากรณีเหล่านี้ด้วย การร้องเรียนจำนวนมากภายใต้ NetzDG ในเรื่องการหมิ่นประมาทและการดูถูกไม่ได้ส่งมาโดยผู้ที่ได้รับผลกระทบ แต่ส่งมาจากบุคคลที่สามซึ่งคาดเดาว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบอาจรู้สึกว่าถูกหมิ่นประมาท โซเชียลเน็ตเวิร์กจะไม่ทราบว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ หรือผู้ได้รับผลกระทบได้ยื่นการร้องเรียนทางอาญาต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ (เพราะการฟ้องร้องสำหรับการกระทำผิดเหล่านี้จะต้องมีการร้องเรียนจากบุคคลที่หนึ่ง ("Antragsdelikt") เนื่องจากเราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะยืนยันตัวตนของผู้ส่งได้

คำขอภายใต้ NetzDG ได้รับการตรวจสอบจากทีม NetzDG ของเราซึ่งแบ่งการทำงานเป็น 2 กะทุกวันไม่เว้นวันหยุดเพื่อให้การนำเนื้อหาออกจากระบบของเราทั่วโลกหรือการบล็อกเนื้อหาในพื้นที่ดำเนินไปภายในกรอบเวลาที่ NetzDG กำหนด หากการร้องเรียนใดไร้มูลความจริงอย่างชัดเจน จะมีการแจ้งไปยังผู้ขอโดยทันทีตามข้อกำหนดทางกฎหมาย (ดูส่วน "มาตรการแจ้งให้ผู้ส่งและผู้อัปโหลดทราบตาม NetzDG") หากเนื้อหานั้นไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube หรือบทบัญญัติทางอาญาที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน หรือเนื้อหานั้นมีความซับซ้อนหรือไม่ได้เกี่ยวกับประเทศเยอรมนีอย่างชัดเจน ผู้ตรวจสอบเนื้อหา NetzDG ที่รับผิดชอบจะส่งต่อการร้องเรียนไปยังระดับถัดไปเพื่อให้มีการตรวจสอบทันที จากนั้นผู้ตรวจสอบเนื้อหาอาวุโสจะดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป สำหรับคำขอที่ซับซ้อนจะส่งไปยังทีมกฎหมายของ YouTube ซึ่งหากมีข้อสงสัย จะส่งต่อกรณีที่ยากและล่อแหลมไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ Google Germany GmbH ซึ่งมีตัวเลือกในการส่งต่อกรณีที่ยากมากไปยังสำนักงานกฎหมายภายนอกที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญา ปกติแล้วขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน

เราได้จัดให้มีขั้นตอนการประเมินคุณภาพอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าทีม NetzDG จะดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ รวมทั้งใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube และความผิดอาญาภายใต้ NetzDG อย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน ระหว่างระยะเวลาการรายงาน เราได้สุ่มตัวอย่างเนื้อหาที่ผ่านการตรวจสอบขึ้นมาโดยเฉลี่ยประมาณ 30% จากแต่ละสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนรายการที่ทำการประเมินคุณภาพอาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละสัปดาห์โดยขึ้นอยู่กับจำนวนเรื่องร้องเรียนที่ส่งเข้ามา ในระหว่างขั้นตอนนี้ ทีมตรวจสอบคุณภาพจะประเมินการตัดสินใจของผู้ตรวจสอบเนื้อหาแต่ละคน ให้ความคิดเห็นแบบรายบุคคล และทำการวิเคราะห์ผลการตรวจสอบคุณภาพโดยรวม ตัวอย่างคุณภาพที่เลือกไว้จะใช้เป็นฐานสำหรับภาพรวมข้อมูลคุณภาพรายสัปดาห์ ผู้ตรวจสอบคุณภาพเป็นทีมที่แยกออกมาจากทีม NetzDG และมีสมาชิกในทีมระดับอาวุโสที่เคยผ่านงานด้านการตรวจสอบเนื้อหาและมีประสบการณ์มากทางด้านบทบัญญัติทางอาญาที่อ้างถึงใน NetzDG รวมทั้งด้านหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ด้วย ในการประชุมประจำสัปดาห์ระหว่างทีมกฎหมายของ YouTube และทีม NetzDG นอกเหนือจากการพูดคุยเกี่ยวกับผลการประเมินคุณภาพครั้งล่าสุดแล้ว เรายังได้กำหนดมาตรฐานของกรณีที่น่าสนใจ ยาก และซับซ้อนเป็นพิเศษอีกด้วย นอกจากนั้น ยังได้มีการหยิบยกเทรนด์ที่โดดเด่น, "ประเด็นร้อน" ในปัจจุบัน และความคืบหน้าของกฎหมายจากคดีพิพาทใหม่ๆ มาหารือกันอย่างเต็มที่เพื่อให้มีวิธีการทำงานที่สอดคล้องกันในทีม NetzDG เมื่อเหมาะสม เราจะปรับแต่งนโยบายการนำออกให้เหมาะกับหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ที่มีการปรับปรุงและคำพิพากษาล่าสุดที่นำมาเป็นบรรทัดฐานของกฎหมาย เป็นต้น ในกรณีดังกล่าว จะมีการจัดเตรียมคำแนะนำใหม่ๆ ให้แก่สมาชิกทุกคนในทีม NetzDG รวมทั้งเนื้อหาการฝึกอบรมด้วยหากเหมาะสม

อุทธรณ์

การอุทธรณ์คำตัดสินภายใต้ NetzDG: หากเราระบุว่าวิดีโอที่รายงานเข้ามาผ่านการร้องเรียนภายใต้ NetzDG นั้นผิดกฎหมายภายใต้การกระทำผิดทางอาญาข้อใดข้อหนึ่งที่ระบุไว้ใน NetzDG ผู้อัปโหลดจะได้รับข้อความที่คล้ายกันพร้อมลิงก์ไปยังแบบฟอร์มยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน ผู้ส่งก็ยื่นอุทธรณ์ได้เช่นกันหากการร้องเรียนถูกปฏิเสธเนื่องจากเราไม่พบการละเมิดการร้องเรียนทางอาญาที่ระบุไว้ใน NetzDG

หากเป็นการอุทธรณ์ต่อ NetzDG สมาชิกในทีม NetzDG ที่ไม่ได้เป็นผู้ออกคำตัดสินในรอบแรกจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมภายใต้ NetzDG ที่จะคงไว้ซึ่งหรือแก้ไขคำตัดสินในรอบแรกเกี่ยวกับการละเมิดบทบัญญัติทางอาญาที่ระบุไว้ใน NetzDG และจะส่งผลคำตัดสินของการตรวจสอบเพิ่มเติมนี้ให้ทางอีเมล

การอุทธรณ์หลักเกณฑ์ของชุมชน: เมื่อ YouTube ดำเนินการกับวิดีโอที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ก็จะแจ้งผู้อัปโหลดเกี่ยวกับการดำเนินการที่เกิดขึ้นและเหตุผลในการดำเนินการ เราจะให้คำอธิบาย ลิงก์สำหรับดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเนื้อหาออก และลิงก์ไปยังขั้นตอนการอุทธรณ์แก่ผู้ใช้สำหรับการประเมินเนื้อหาตามหลักเกณฑ์ของชุมชนอีกครั้ง เราได้อนุญาตให้ผู้ใช้อุทธรณ์ผลคำตัดสินมานานแล้วหากผู้ใช้เชื่อว่าเนื้อหาของตนไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ขั้นตอนดังกล่าวมีคำอธิบายโดยละเอียดที่นี่ การอุทธรณ์หลักเกณฑ์ของชุมชนและการคืนสิทธิเป็นส่วนหนึ่งของรายงานการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube โดยหน้าเว็บนี้จะมีข้อมูลโดยละเอียดให้เข้าถึงได้

ทีมตรวจสอบ

แม้ว่าเทคโนโลยีจะเป็นประโยชน์ต่อการระบุเนื้อหาซึ่งกำลังเป็นที่โต้แย้งบางประเภท เช่น การค้นหาวัตถุและรูปแบบได้อย่างรวดเร็วในปริมาณมาก ทั้งในรูปภาพ วิดีโอ และเสียง แต่มนุษย์ประเมินบริบทได้ดีที่สุด เช่น บางครั้งอัลกอริทึมก็แยกความต่างไม่ได้ระหว่างโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้ายกับคลิปวิดีโอเรื่องสิทธิมนุษยชน หรือวาจาสร้างความเกลียดชังกับการแสดงตลกที่ยั่วยุอารมณ์ และมักต้องใช้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย

การตรวจสอบการแจ้งการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนและการแจ้งในเรื่องอื่นๆ จะดำเนินการโดยระบบเทคโนโลยีของเราร่วมกับพนักงาน Google และผู้ให้บริการที่เราว่าจ้าง เรามีเฟรมเวิร์กการตรวจสอบคุณภาพสูงเพื่อดูแลให้พนักงานทั่วโลกของเราตัดสินใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่มีการรายงานได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกัน รวมทั้งได้รับความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของตนเป็นประจำ ทีมตรวจสอบของเรามีบุคลากรหลายพันคนที่เชี่ยวชาญหลายภาษา โดยจะประเมินเนื้อหาที่ถูกรายงานอย่างถี่ถ้วนทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงในเขตเวลาต่างๆ ทั่วโลก ทีมเหล่านี้มีบุคลากรที่รู้ภาษาเยอรมันหลายคน

สมาชิกบางรายในทีมที่ทำงานเกี่ยวกับการร้องเรียนทางกฎหมายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่รู้ภาษาเยอรมันและได้รับปริญญาสาขานิติศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญซึ่งผ่านการฝึกอบรมด้านกฎหมายท้องถิ่นเหล่านี้ทุกคนจะหารือร่วมกับที่ปรึกษาทางกฎหมายของ Google ในพื้นที่ Google ว่าจ้างทีมกฎหมายขนาดใหญ่ซึ่งประกอบด้วยที่ปรึกษาทางกฎหมายที่ประจำอยู่ในหลายๆ ประเทศในยุโรป ทีมกฎหมายนี้จะเข้ามามีส่วนร่วมด้านการวิเคราะห์ทางกฎหมายเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกรายงานตามที่จำเป็น และทีมอาจขอคำปรึกษาทางกฎหมายเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาทางกฎหมายภายนอกในพื้นที่ด้วย

ทีม NetzDG สำหรับคำขอภายใต้ NetzDG เราได้จัดให้มีทีมผู้ชำนาญการจากผู้ให้บริการภายนอกในเยอรมนี (ทีม NetzDG) จำนวนผู้ตรวจสอบเนื้อหาอาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับจำนวนคำขอภายใต้ NetzDG ที่ส่งเข้ามา ในระยะเวลาการรายงานดังกล่าว สมาชิก 77 คนในทีม NetzDG ทำงานเกี่ยวกับคำขอภายใต้ NetzDG โดยเป็นผู้ตรวจสอบเนื้อหา (รวมถึงผู้ตรวจสอบเนื้อหาอาวุโส) 61 คน ซึ่งมีหัวหน้าทีมควบคุมดูแล 5 คน และได้รับการสนับสนุนจากผู้ตรวจสอบคุณภาพ 6 คนกับผู้ฝึกอบรมอีก 2 คน

ผู้ตรวจสอบของเรามีประสบการณ์การทำงานในสาขาที่หลากหลาย สื่อสารได้หลายภาษา และมาจากช่วงอายุที่ต่างกันตั้งแต่ 21-55 ปีในระยะเวลาการรายงานนี้ โดยมีเป้าหมายให้เกิดความหลากหลายทางวัฒนธรรม สมาชิกทุกคนในทีม NetzDG พูดภาษาเยอรมันได้คล่อง โดยส่วนใหญ่เป็นผู้พูดภาษาเยอรมันโดยกำเนิด สมาชิกทุกคนในทีม NetzDG พูดภาษาอังกฤษได้ด้วย สมาชิกในทีม NetzDG 1-30 คนพูดภาษาต่อไปนี้ได้อย่างน้อย 1 ภาษา ได้แก่ ตุรกี รัสเซีย สเปน บัลแกเรีย อิตาลี ญี่ปุ่น เซอร์เบีย เคิร์ด และยูเครน ซึ่งเป็นประโยชน์เมื่อต้องทำการประเมินลิงก์ภาษาอื่นที่อาจส่งผู้ใช้ไปยังเยอรมนี ในระยะเวลาการรายงานนี้ สมาชิกในทีม NetzDG จำนวน 1 ใน 4 (25%) จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท หรือผ่านการสอบ State Exam ในสาขาต่างๆ เช่น รัฐศาสตร์ วิชาการแปล นิเทศศาสตร์ บริหารธุรกิจ วิทยาศาสตร์สุขภาพ วิศวกรรมอุตสาหการ โบราณคดี หรือครุศาสตร์ สมาชิกในทีม 1 คนจบการศึกษาระดับปริญญาเอก สมาชิกในทีมจำนวนประมาณ 40% ผ่านการฝึกงานเป็นผู้ค้าปลีก คนทำอาหาร เสมียนในแวดวงต่างๆ การจัดการสำนักงาน การท่องเที่ยว หรือสิ่งพิมพ์ ช่างปูน หรือในสาขาต่างๆ เช่น เทคโนโลยีสื่อและสารสนเทศ การจัดการโลจิสติกส์ หรือเทคโนโลยีอาหาร

ทีม NetzDG ได้รับการฝึกอบรมทั้งด้านการประเมินความผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้องภายใต้ NetzDG และหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube อย่างน้อยทุกๆ ครึ่งปี

สมาชิกในทีม NetzDG แต่ละคนได้รับการฝึกอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติงานโดยทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ขั้นตอนต่างๆ และระบบทางเทคนิคของเราทั้งหมด รวมทั้งการฝึกอบรมทางกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดทางอาญาภายใต้ NetzDG นอกเหนือจากการฝึกอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติงานแล้ว โดยทั่วไปเรายังจัดการฝึกอบรมภาคบังคับเพื่อทบทวนความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับ NetzDG ทุกๆ 6 เดือน การฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้จัดขึ้นเป็นภาษาเยอรมันโดยทีมที่ปกติจะประกอบด้วยทนายความจากภายนอกและสมาชิกจากทีมกฎหมายของ YouTube และ Google Germany GmbH การใช้รูปแบบการทำงานเป็นกะโดยแบ่งผู้ทำงานเป็นกลุ่มช่วยให้เราแบ่งการฝึกอบรมเหล่านี้ออกเป็นหลายเซสชันได้ ทำให้สมาชิกในทีมทุกคน รวมถึงหัวหน้าทีม ผู้ตรวจสอบคุณภาพ และผู้ฝึกอบรมเข้าร่วมการฝึกอบรมได้ครบทุกคน และได้รับโอกาสมากพอในการหารือกันเกี่ยวกับคำถามและตัวอย่างที่เป็นที่ถกเถียงกัน (มีการรวบรวมไว้ล่วงหน้าด้วย) นอกจากนี้ เรายังได้จัดการฝึกอบรมทางกฎหมายแบบเฉพาะกิจตามความจำเป็นโดยทีมกฎหมายของ YouTube และได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ Google Germany GmbH เราใช้รูปแบบ "ฝึกการเป็นผู้ฝึกอบรม" หรือการจัดการฝึกอบรมให้กับผู้ฝึกอบรมที่กำหนดตัวไว้ของทีม NetzDG ซึ่งจะรับผิดชอบในการจัดการฝึกอบรมแก่สมาชิกคนอื่นๆ ในทีม NetzDG ต่อไป ทั้งการฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้และการฝึกอบรมทางกฎหมายแบบเฉพาะกิจจะครอบคลุมถึงเหตุการณ์ในขณะนั้น เทรนด์ต่างๆ กฎหมายจากคดีพิพาทใหม่ และคำขอประเภทต่างๆ ที่ประเมินได้ยากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เราจัดการฝึกอบรมทางกฎหมายแบบเฉพาะกิจในหัวข้อต่างๆ เช่น การหมิ่นประมาทเกี่ยวกับศาสนา เนื้อหาที่มีความรุนแรง และการดูหมิ่นที่มุ่งเป้าไปยังบุคคลสาธารณะและนักการเมือง

ทีม NetzDG ยังได้ประโยชน์จากการฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของชุมชนเป็นประจำ การฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้เหล่านี้จะอธิบายถึงพัฒนาการใหม่ๆ และเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับทางทีม เช่น เกี่ยวกับวาจาสร้างความเกลียดชังและความปลอดภัยของเด็ก นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมเฉพาะทางสําหรับบางด้าน เช่น เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับอาวุธ การแกล้งกันและชาเลนจ์ที่เป็นอันตราย การรักษาความปลอดภัยทางดิจิทัล และเนื้อหาหลอกลวง การฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของชุมชนดำเนินการโดยผู้จัดการการบังคับใช้นโยบายร่วมกับสมาชิกในทีมกฎหมายของ YouTube นอกจากนี้ ทีม NetzDG ยังได้รับอัปเดตรายสัปดาห์และอัปเดตด่วนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของชุมชนเมื่อเกี่ยวข้องกับทีม

เราจัดให้มีโปรแกรมสุขภาวะประสิทธิภาพสูงและการช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตสำหรับสมาชิกในทีม NetzDG เช่น การฝึกอบรมตามปกติและตามคำขอ และเซสชันการให้คำปรึกษาแบบรายบุคคลเป็นภาษาเยอรมันจากทีมที่จัดขึ้นโดยเฉพาะซึ่งประกอบด้วยนักจิตวิทยา นักบำบัด และผู้ฝึกอบรมที่รู้ภาษาเยอรมัน สมาชิกในทีมขอรับการปรึกษาได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทางสายด่วนเพื่อการช่วยเหลือ และเรายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนับสนุนสุขภาวะ ซึ่งรวมถึงพื้นที่แยกต่างหากและพื้นที่ส่วนตัวเฉพาะสำหรับเซสชันการให้คำปรึกษาแบบรายบุคคล การดำเนินการนี้สอดคล้องกับโปรแกรมสุขภาวะที่เราจัดเตรียมไว้สำหรับทีมตรวจสอบทั้งหมดใน Google และ YouTube นอกจากนี้ ทีมยังได้รับส่วนลดอัตราค่าสมาชิกของฟิตเนสและสถานออกกำลังกายอีกด้วย

สมาชิกสมาคมอุตสาหกรรม

YouTube เสนอหลักการผ่านทาง Google ต่อสมาคมที่เกี่ยวข้องกับ NetzDG ในเรื่องต่อไปนี้

FSM และ eco ดำเนินการสายด่วนที่ผู้บริโภคสามารถโทรเข้ามารายงานเนื้อหาได้ จากนั้นจะมีการส่งต่อการรายงานไปให้ทีมตรวจสอบประเมิน ในแต่ละกรณี เราจะส่งความคิดเห็นอย่างละเอียดเกี่ยวกับการตัดสินใจกลับไปยังสายด่วนการรายงานดังกล่าว

เราเชื่อว่าการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญ เราทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับกลุ่มประชาสังคมซึ่งมีพันธกิจในการขจัดวาจาสร้างความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติให้หมดสิ้นไป และร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทในท้องถิ่นและพัฒนาหนทางแก้ปัญหา เราตรวจทานแนวทางการบังคับใช้นโยบายของเรากับพาร์ทเนอร์และผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำและเชิญหน่วยงาน NGO ให้เข้ามามีส่วนร่วมในเวิร์กช็อปในท้องถิ่นหรือทั่วประเทศเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายของเราและข่าวสารอัปเดตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ฝึกอบรมการใช้บริการของ Google รวมถึงมาตรการความปลอดภัย และพูดคุยเกี่ยวกับอุปสรรคและปัญหาหลักที่พบในปัจจุบัน

มาตรการป้องกันเพิ่มเติมและการช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเนื้อหาผิดกฎหมาย

Google และ YouTube จัดการกับวาจาสร้างความเกลียดชังทางออนไลน์และให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเนื้อหาผิดกฎหมายผ่านโครงการริเริ่มและโปรเจ็กต์ต่างๆ

โครงการ Impact Challenge ด้านความปลอดภัยของ Google.org เป็นกองทุนมูลค่า €10 ล้านเพื่อสนับสนุนองค์กรในยุโรปซึ่งทำงานรับมือกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับความเกลียดชัง ลัทธิสุดโต่ง และความปลอดภัยของเด็ก ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ Google คาดหวังที่จะให้ความช่วยเหลือโครงการริเริ่มต่างๆ ด้วยการมอบเงินสนับสนุนโปรเจ็กต์ใหม่และโปรเจ็กต์ที่ดำเนินการอยู่แล้วในชุมชนทั่วยุโรป เพื่อต่อต้านความเกลียดชังและลัทธิสุดโต่ง ตลอดจนช่วยให้เยาวชนกลายมาเป็นพลเมืองยุคดิจิทัลที่มีความมั่นใจ ผู้ได้รับเงินสนับสนุน ได้แก่ องค์กรในเยอรมนีอย่าง HateAid และ Gefangene helfen Jugendlichen e.V. โดย HateAid ตั้งเป้าที่จะนำงบประมาณสนับสนุนไปพัฒนาการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของวาจาสร้างความเกลียดชังและอาชญากรรมสร้างความเกลียดชังทางออนไลน์ ช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ใช้ที่ประสบเหตุการณ์นี้ และส่งเสริมให้ผู้ใช้เหล่านั้นกลับไปออนไลน์ได้อีกครั้งเพื่อที่จะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าตนไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นเนื่องจากความรู้สึกที่สร้างความเกลียดชัง เพื่อช่วยลดอัตราการทำผิดซ้ำซากในเยาวชนชาวเยอรมันกลุ่มเปราะบาง ทีมจาก Gefangene helfen Jugendlichen ให้ความช่วยเหลือแบบมืออาชีพและจัดโปรแกรมต่างๆ ซึ่งรวมถึงการไปเยี่ยมเยือนสถานกักกันและการพูดคุยกับอดีตนักโทษเพื่อให้เยาวชนกลุ่มเปราะบางได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตจริงและอันตรายของการก่ออาชญากรรม

ตลอดเวลาหลายปี Google ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพให้เยาวชนและผู้ใช้ทุกวัย ตลอดจนให้การสนับสนุนครูด้วยแหล่งข้อมูลสำหรับห้องเรียน เราพยายามอยู่เสมอที่จะเพิ่มการตระหนักรู้เกี่ยวกับกลไกการแจ้งเนื้อหาว่าไม่เหมาะสมและให้ความรู้แก่ผู้ใช้เกี่ยวกับนโยบาย การตั้งค่า รวมถึงเครื่องมือเพื่อไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของ Google และ YouTube

ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา Google ได้มอบเงินสนับสนุนและความช่วยเหลือให้กับสมาคมการกำกับตนเองโดยสมัครใจของผู้ให้บริการสื่อดิจิทัลในเยอรมนี (German Association for Voluntary Self-Regulation of Digital Media Service Providers หรือ FSM e. V.) เพื่อสร้างและพัฒนาบทคัดย่อไว้เป็นแหล่งข้อมูลในการเรียนการสอนเรื่อง "Medien in die Schule" ซึ่งมีแผนการสอนเกี่ยวกับการกำหนดรูปแบบความคิดเห็นออนไลน์ การต่อต้านวาจาสร้างความเกลียดชัง เรื่องจริงกับเรื่องที่แต่งขึ้นในสื่อ การรู้เท่าทันสารสนเทศ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ทาง YouTube ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในท้องถิ่นภายใต้การอุปถัมภ์ของนายกรัฐมนตรี Merkel เพื่อเปิดตัวโครงการริเริ่ม "361 Grad Respekt" เป็นครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นหลายครั้งระหว่างปี 2009-2014 (ตั้งแต่ปี 2010 อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการครอบครัว) และได้กลับมาจัดโครงการอีกครั้งเมื่อปี 2016 ในชื่อ #NichtEgal โดยมีการจัดโครงการซ้ำ 2 ครั้ง (2016 และ 2018) โครงการริเริ่มเหล่านี้มีเป้าหมายในการช่วยปลูกฝังพฤติกรรมการเคารพผู้อื่นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนส่งเสริมให้เยาวชนยืนหยัดต่อสู้กับความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติด้วยการจัดการประกวดวิดีโอและเวิร์กช็อปในโรงเรียน

สมาคมการกํากับตนเองโดยสมัครใจของผู้ให้บริการสื่อดิจิทัลในเยอรมนี (FSM e.V.) ใช้งบประมาณสนับสนุนที่ได้รับจากฝ่ายงานการกุศลของ Google อย่าง Google.org เพื่อเปิดตัวโปรเจ็กต์ "Weitklick" เมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 โดยตั้งเป้าที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบผสมผสานเพื่อให้ความรู้แก่บรรดาครูเกี่ยวกับปรากฏการณ์การบิดเบือนข้อมูลและวิธีพูดถึงปัญหานี้ในชั้นเรียน และผนึกกำลังของครู โรงเรียน และนักข่าวเข้าด้วยกัน

เราลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเครือข่ายนักวิชาการ พาร์ทเนอร์จากฝ่ายรัฐบาล และ NGO ทั่วโลกกว่า 300 รายที่ช่วยนำความรู้และความเชี่ยวชาญอันมีค่ามาสู่ระบบการบังคับใช้ของเรา เช่น มูลนิธิ Amadeu Antonio ในเยอรมนี, Nummer gegen Kummer รวมถึงเครือข่ายป้องกันการใช้ความรุนแรง

กลไกอัตโนมัติ

YouTube ใช้เฟรมเวิร์ก "คนและคอมพิวเตอร์ (people + machine)" ในการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube เพื่อแจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมและให้มีการประเมินตามหลักเกณฑ์ของชุมชน การแจ้งว่าไม่เหมาะสมโดยอิงตามการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนที่เป็นไปได้อาจมาจากระบบการแจ้งว่าไม่เหมาะสมโดยอัตโนมัติของ YouTube, จากสมาชิกของโปรแกรมผู้รายงานปัญหาที่น่าเชื่อถือ (NGO, หน่วยงานรัฐบาล และบุคคลธรรมดา) หรือจากผู้ใช้ทั่วไปในชุมชน YouTube

YouTube ใช้เจ้าหน้าที่และเทคโนโลยีตรวจสอบร่วมกันเสมอเพื่อจัดการกับเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายในแพลตฟอร์ม และเมื่อปี 2017 YouTube เริ่มนำเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงที่ก้าวหน้ามากขึ้นมาใช้ในการแจ้งว่าเนื้อหาไม่เหมาะสมเพื่อเข้ารับการตรวจสอบจากทีมตรวจสอบ การใช้เทคโนโลยีการตรวจหาอัจฉริยะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดีช่วยให้ YouTube บังคับใช้นโยบายได้โดยสอดคล้องกันอย่างรวดเร็ว

คอมพิวเตอร์ช่วยให้ YouTube แจ้งว่าเนื้อหาไม่เหมาะสมเพื่อเข้ารับการตรวจสอบได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้เรานำวิดีโอที่ละเมิดนโยบายหลายล้านรายการออกได้ก่อนที่จะมีการรับชม การลงทุนด้านแมชชีนเลิร์นนิงของ YouTube เพื่อช่วยเร่งความเร็วในการนำเนื้อหาออกก็เห็นผลในด้านต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูงแต่มีปริมาณไม่มาก (เช่น ลัทธิสุดโต่งหัวรุนแรง) และในด้านที่มีปริมาณมาก (เช่น สแปม)

คุณเข้าถึงข้อมูลการนำออกล่าสุดได้ในรายงานการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ที่นี่

การใช้แมชชีนเลิร์นนิงหมายความว่ามีผู้คนตรวจสอบเนื้อหามากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง ระบบของเราใช้การตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่เพื่อประเมินว่าเนื้อหาละเมิดนโยบายของเราหรือไม่

เมื่อเราตรวจพบวิดีโอที่ละเมิดหลักเกณฑ์ เราจะนำวิดีโอดังกล่าวออกและให้ประกาศเตือนกับช่องนั้น เราจะปิดทั้งช่องหากช่องเหล่านั้นมีไว้เพื่อโพสต์เนื้อหาที่หลักเกณฑ์ของชุมชนไม่อนุญาตโดยเฉพาะหรือมีการละเมิดอย่างร้ายแรงครั้งเดียว เช่น การแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากเด็ก ความพยายามที่จะละเมิดส่วนใหญ่มาจากผู้ไม่ประสงค์ดีซึ่งพยายามที่จะอัปโหลดสแปมหรือเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่

คลิกที่นี่เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราต่อสู้กับเนื้อหาประเภทนี้และผลที่ได้รับจากความทุ่มเทของเรา

นอกจากนี้ เราได้สร้างเครื่องมือที่เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ดูแลความคิดเห็นในวิดีโอของตนด้วย ตัวอย่างเช่น ครีเอเตอร์สามารถเลือกที่จะระงับความคิดเห็นทั้งหมดไว้ตรวจสอบ หรือระงับความคิดเห็นที่มีลิงก์หรืออาจมีเนื้อหาที่ทำให้เกิดความไม่พอใจได้โดยอัตโนมัติ ปัจจุบันมีครีเอเตอร์กว่า 1 ล้านรายที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อดูแลความคิดเห็นในช่องของตน

คำอธิบายบทบัญญัติของข้อกำหนดในการให้บริการเกี่ยวกับการอนุญาตให้เผยแพร่เนื้อหาใน YouTube

ข้อกำหนดในการให้บริการของ YouTube มีโครงสร้างที่ชัดเจนและมีบทต่างๆ รวมถึงบท "เนื้อหาและการปฏิบัติของคุณ" ซึ่งอธิบายให้ผู้ใช้ทราบเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับเนื้อหาและพฤติกรรมที่ไม่อนุญาตในแพลตฟอร์ม ข้อกำหนดในการให้บริการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าการใช้งานบริการนี้อยู่ในบังคับของข้อกำหนดในการให้บริการ, หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube, นโยบายของ YouTube, นโยบายความปลอดภัยและลิขสิทธิ์ (เรียกรวมว่า "ข้อตกลง") โดยข้อกำหนดในการให้บริการระบุไว้ว่าห้ามมิให้มีการโพสต์เนื้อหาที่ละเมิดข้อตกลงหรือกฎหมาย หลักเกณฑ์ของชุมชนที่รวมไว้ในข้อตกลงมีโครงสร้างที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย โดยครอบคลุม 5 หัวข้อ ได้แก่ สแปมและพฤติกรรมหลอกลวง เนื้อหาที่ละเอียดอ่อน เนื้อหารุนแรงหรือเป็นอันตราย สินค้าควบคุม และการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แต่ละหัวข้อแบ่งแยกย่อยไปเป็นส่วนต่างๆ ที่มีนโยบายที่เกี่ยวข้อง แต่ละนโยบายจะเริ่มด้วยคำอธิบายทั่วไปของเนื้อหาที่ไม่ได้รับอนุญาตให้อัปโหลดใน YouTube และเหตุผล จากนั้นในส่วน "นโยบายนี้ส่งผลต่อคุณอย่างไร" นโยบายจะให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้อย่างเจาะจงถึงผลของการกระทำในแพลตฟอร์ม โดยทั่วไปส่วนย่อยที่ตามมาจะเป็นส่วน "ตัวอย่าง" ซึ่งแสดงตัวอย่างที่เจาะจงของเนื้อหาที่ไม่อนุญาตให้อัปโหลดใน YouTube ภายใต้นโยบายดังกล่าว ส่วนสุดท้ายของบทคือ "สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเนื้อหาละเมิดนโยบายนี้" ซึ่งผู้ใช้จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผลที่อาจเกิดตามมาจากการละเมิด ดังนั้น บทบัญญัติเหล่านี้จึงกำกับดูแลการยอมรับการเผยแพร่เนื้อหาใน YouTube โดยใช้การออกแบบและภาษาที่เข้าใจง่าย โดยมีคำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ยอมรับไม่ได้และเพิ่มการยกตัวอย่าง บทบัญญัติเหล่านี้ค้นพบได้ง่าย มีภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย จึงเป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรา 307 ย่อหน้า 1, 308 และ 309 BGB บทบัญญัติในหลักเกณฑ์เหล่านี้อิงตามเกณฑ์ที่เป็นกลางและตรวจสอบได้ จึงเป็นไปตามมาตรฐานของหลักกฏหมายที่เกี่ยวข้องที่มาจากคำพิพากษาของศาล นอกจากนี้ ผู้ใช้จะได้รับข้อมูลโดยละเอียดถึงวิธีที่ตนจะได้รับแจ้งเกี่ยวกับการละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการหรือหลักเกณฑ์ของชุมชน ตลอดจนวิธีและช่องทางที่ผู้ใช้จะสามารถยื่นคำแถลงการณ์หรือดำเนินการอุทธรณ์

ตัวอย่างการร้องเรียน

ในระยะเวลาการรายงานแต่ละช่วง เราจะรวบรวมชุดตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจของเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเนื้อหาที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมาย เพื่อให้เห็นภาพความกว้างของเนื้อหาที่ครอบคลุมโดย NetzDG และประเภทเนื้อหาที่มีผู้ขอให้เรานำออก

ระยะเวลา
ม.ค. 2018 – มิ.ย. 2018
ประเภท
ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย

มิวสิกวิดีโอแสดงภาพผู้ชายเปลือยโผล่ขึ้นมาจากทะเลถูกรายงานหลายครั้งว่าเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศที่ผิดกฎหมาย

ระยะเวลา
ม.ค. 2018 – มิ.ย. 2018
ประเภท
ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย

มีการรายงานสุนทรพจน์ของ Angela Merkel ในหัวข้อที่ว่าศาสนาอิสลามควรมีอยู่ในประเทศเยอรมนีหรือไม่ ว่าเป็นวาจาสร้างความเกลียดชังและเป็นเนื้อหาจากผู้ก่อการร้าย เพราะผู้ขอให้นำเนื้อหาออกระบุว่า Merkel จะทำให้ประเทศเยอรมนีตกอยู่ในอันตรายและเกิดหายนะขึ้นได้

ระยะเวลา
ม.ค. 2018 – มิ.ย. 2018
ประเภท
ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย

วิดีโอของ Jan Böhmermann ที่พูดคุยเกี่ยวกับกลุ่มขวาจัดในเชิงวิพากษ์วิจารณ์และเสียดสีได้รับการรายงานหลายครั้ง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีวาจาสร้างความเกลียดชัง ความรุนแรง เป็นสแปม การหมิ่นประมาท และการดูถูก

ระยะเวลา
ม.ค. 2018 – มิ.ย. 2018
ประเภท
ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ความคิดเห็นที่ชมเชย “นอนกอดกันที่บ้าน” ถูกแจ้งว่าไม่เหมาะสมเพราะเป็น “พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย”

ระยะเวลา
ม.ค. 2018 – มิ.ย. 2018
ประเภท
ที่ปรึกษาภายนอก

วิดีโอแสดงภาพ “นักเทศน์ผู้สร้างความเกลียดชัง” ผู้นับถือศาสนาอิสลามชาวเยอรมันซึ่งเป็นที่รู้จักกำลังเรียกหา “การอ้อนวอน” (dua) และ “การทำตอวาฟ” (tawaf) โดยจะได้ยินชุมชนกู่ร้อง “ตักบีร์” (takbir) วิดีโอดังกล่าวถูกรายงานภายใต้ NetzDG ว่าเป็นเนื้อหาจากผู้ก่อการร้ายหลายครั้ง เนื่องจากแนวคิดเรื่องการเผยแพร่ (Da’wa) ตีความเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากการโฆษณาชวนเชื่อได้ด้วย และไม่พบโฆษณาชวนเชื่อในวิดีโอนี้ ที่ปรึกษาภายนอกจึงระบุว่าวิดีโอนี้ถูกกฎหมาย

การนำเนื้อหาออกภายใต้กฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับเครือข่าย

Google ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนำออก นโยบาย และขั้นตอนที่มีอยู่ในรายงานนี้โดยสอดคล้องกับกฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับเครือข่ายของเยอรมนี

ดาวน์โหลดรายงาน

ประวัติรายงานของ YouTube
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง
พฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นอันตราย
เนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายหรือละเมิดรัฐธรรมนูญ
วาจาสร้างความเกลียดชังหรือแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง